สมอ.ประกาศมาตรฐานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตฉบับใหม่
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เตรียมความพร้อมรองรับการประกาศให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตต้องเป็นไปตามมาตรฐานฉบับใหม่ (มอก. 20-2559 และ มอก. 24-2559) เพื่อควบคุมเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ เริ่มบังคับใช้ 18 มิถุนายน 2560 นี้
นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวว่า สมอ. เตรียมประกาศมาตรฐานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 2 มาตรฐาน คือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กเส้นกลม (มอก.20-2559) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต : เหล็กข้ออ้อย (มอก.24-2559) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2560 เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน
การประกาศ มอก. เหล็กเส้นเสริมคอนกรีตฉบับใหม่นี้ เพื่อควบคุมเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตจากต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะเหล็กเจืออัลลอย ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแต่ไม่เหนียว หากนำไปใช้งานจะไม่สามารถรับแรงได้ตามที่วิศวกรคำนวณ จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดการพังถล่มของสิ่งก่อสร้างได้ เพราะอุตสาหกรรมเหล็กเส้นเป็นหนึ่งในวัสดุสำคัญที่มีผลกระทบต่อประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน สังคมและเศรษฐกิจ เพราะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาคารสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนของประชาชน และสาธารณูปโภคทั่วประเทศ ซึ่งเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตด้อยคุณภาพจะทำลายคุณภาพมาตรฐานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ตลอดจนคุณภาพของการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นภายในประเทศ
สมอ. เห็นความสำคัญของผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต จึงได้ประกาศให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นมาตรฐานบังคับ และกำหนดให้ผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นต้องแสดงชื่อผู้ทำหรือโรงงานที่ทำหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนและชื่อผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวนูนถาวรบนเนื้อเหล็กให้เห็นได้ง่ายและชัดเจนขึ้นด้วย โดยผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้นำเข้า ต้องผลิต จำหน่าย และนำเข้าเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. จะมีการทบทวนการแก้ไขมาตรฐานทุกๆ 5 ปี เพื่อยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย เหมาะสมสอดคล้องกับการใช้งาน สถานการณ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถรับทราบการปรับปรุงมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง และติดตามความเคลื่อนไหวด้านการมาตรฐานได้ที่ www.tisi.go.th หรือwww.facebook.com/tisiofficial