ผลสำรวจจาก jobsDB เรื่อง “การอัปเดตโปรไฟล์กับ jobsDB ช่วยเพิ่มโอกาสการได้งานที่ใช่ มากน้อยเพียงใด” ที่ได้สอบถามผู้สมัครงานที่สร้างโปรไฟล์กับ jobsDB สรุปผลดังนี้
75% ของผู้สมัครงาน อัปเดตโปรไฟล์กับ jobsDB ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
80% ของผู้สมัครงาน ถูกเชิญให้ไปสัมภาษณ์งานภายใน 1 เดือน หลังจากอัปเดตโปรไฟล์กับ jobsDB
74% ของผู้สมัครงาน ได้งานใหม่ภายใน 1 เดือน หลังจากที่สมัครงาน
และสิ่งที่จะทำให้คุณได้งานที่ใช่ ภายใน 1 เดือนได้นั้น คุณต้องลองเปิดโอกาสให้งานตามหาคุณบ้าง แทนที่คุณจะเป็นฝ่ายตามหางานเพียงฝ่ายเดียว jobsDB ขอเสนอ 3 สิ่งควรทำ ให้ได้งานที่ใช่แบบ fast track ดังนี้
1. อัปเดตโปรไฟล์อยู่เสมอ
คุณสงสัยหรือไม่ว่าทำไมคุณถึงไม่เคยถูกเรียกให้ไปสัมภาษณ์งานเลย อาจเป็นเพราะว่าคุณสมัครงานไม่ตรงกับประสบการณ์การทำงาน หรือทักษะการทำงานของคุณอาจยังไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ หรืออีกนัยหนึ่งคือ ข้อมูลในเรซูเม่ของคุณไม่ได้รับการอัปเดต ลองตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้อัปเดตข้อมูลการติดต่อของคุณ ให้พร้อมสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถติดต่อคุณได้ หรือตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้แน่ใจว่า คุณได้พิมพ์อีเมล์หรือพิมพ์เลขเบอร์โทรติดต่อของคุณตกหล่นไปหรือไม่ เพราะหากใช่ นั่นหมายถึงโอกาสที่จะเสียงานที่ตรงใจ หรือโอกาสในการเริ่มต้นความท้าทายใหม่ๆ ก็เป็นได้
ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณยังไม่ได้กำลังจะหางานใหม่ แต่คุณไม่รู้เลยว่าโอกาสที่คุณจะได้รับการเสนองานดีๆ จะมาถึงคุณตอนไหน คุณต้องลองเปิดโอกาสให้งานตามหาคุณบ้าง โดยการอัปเดตโปรไฟล์ของคุณให้สดใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการฝากโปรไฟล์ไว้กับเว็บไซต์หางานที่มีเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการใช้ค้นหาผู้สมัครงานได้ เช่น ระบบ Talent Search โดยหลักการทำงานของระบบนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการค้นหาโปรไฟล์ของผู้สมัครงาน ระบบจะดึงโปรไฟล์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ และที่สำคัญเป็นโปรไฟล์ที่เพิ่งได้รับการอัปเดตข้อมูลใหม่ที่สุดขึ้นมา นี่คือเหตุผลที่คุณควรอัปเดตโปรไฟล์ให้สดใหม่อยู่เสมอ
และเวลาที่เหมาะกับการอัปเดตโปรไฟล์มากที่สุดคือ ตอนที่คุณได้สร้างผลงานที่โดดเด่น เช่น เมื่อคุณสามารถปิดการขายกับลูกค้ารายใหญ่ ทำให้บริษัทของคุณได้กำไรก้อนโต คุณควรไปอวดความสำเร็จนี้ในโปรไฟล์ของคุณ
2. กรอกข้อมูลในโปรไฟล์ให้ครบถ้วน
การกรอกข้อมูลในโปรไฟล์ให้ครบถ้วนนอกจากจะแสดงถึงทักษะความละเอียดรอบคอบเบื้องต้นของผู้สมัครงานแล้ว ยังช่วยให้ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นต่อการสมัครงานถูกส่งตรงไปหาผู้ประกอบการได้อย่างถูกต้องแม่นยำเพื่อให้พวกเขาได้ใช้พิจารณาเลือกคนเข้าทำงานที่ตรงตามความต้องการ ดังนั้น การเลือกฝากโปรไฟล์ไว้กับเว็บไซต์หางานจึงควรเลือกเว็บไซต์ที่ออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน สะดวก และไม่ยุ่งยาก รวมทั้งรองรับการใช้งานสำหรับไฟล์แนบ ในกรณี ถ้าในโปรไฟล์ของคุณมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่สามารถกรอกได้ แต่เรซูเม่ของคุณสามารถช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนนั้น หรือให้ข้อมูลที่นอกเหนือจากนั้นได้ คุณยังสามารถแนบเรซูเม่ของคุณได้ด้วย แนะนำให้เขียนเรซูเม่ให้กระชับ ไม่ยืดยาว มีข้อมูลครบถ้วน แถมยังเข้าตาผู้ประกอบการ และขนาดไฟล์แนบไม่ควรเกิน 2 MB
3. ตั้งระดับการเปิดเผยโปรไฟล์ของคุณให้เหมาะสม
คุณสามารถเลือกได้ว่าคุณจะเปิดเผยข้อมูลในโปรไฟล์ของคุณมากน้อยแค่ไหน เพราะเรารู้ว่าผู้สมัครงานแต่ละคนมีข้อกังวลในขณะหางานที่ไม่เหมือนกัน เราจึงให้คุณสามารถตั้งสถานะเปิดเผยข้อมูลในโปรไฟล์ได้ตามที่คุณต้องการ ดังนี้
STANDARD (อนุญาตให้ดูข้อมูล) – การตั้งสถานะนี้ จะเป็นการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดในโปรไฟล์ของคุณ รวมทั้งเรซูเม่ และข้อมูลการติดต่อ ให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ามาดูได้ การตั้งสถานะอนุญาตให้ดูข้อมูล เหมาะสำหรับคนที่กำลังหางาน คนที่กำลังตกงาน เพราะจะเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการติดต่อคุณได้ง่ายขึ้น
LIMITED (จำกัดการดูข้อมูล) – การตั้งสถานะนี้ ผู้ประกอบการจะเห็นโปรไฟล์ของคุณได้แค่บางส่วน ไม่สามารถเห็นข้อมูลการติดต่อ และเรซูเม่ของคุณได้ ผู้ประกอบการที่ต้องการติดต่อคุณ และต้องการเชิญคุณไปสมัครงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับคุณ ต้องติดต่อผ่านทาง jobsDB เท่านั้น การตั้งสถานะจำกัดการดูข้อมูลนี้ เหมาะสำหรับคนที่กำลังหางาน แต่ต้องการที่จะควบคุมการติดต่อเข้ามาโดยตรงจากผู้ประกอบการ
HIDDEN (ไม่อนุญาตให้ดูข้อมูล) - สำหรับคนที่ต้องการหยุดพักจากการหางานในตอนนี้ การตั้งสถานะระดับความเป็นส่วนตัวนี้เหมาะกับคุณมาก คุณสามารถซ่อนโปรไฟล์ของคุณ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการสามารถค้นหาโปรไฟล์ของคุณเจอ แต่คุณยังคงสามารถใช้โปรไฟล์นี้ สมัครงานในเว็บไซต์ jobsDB ได้อยู่
jobsDB มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยผู้ที่กำลังหางาน ให้ได้งานที่ใช่ และเหมาะสมจากองค์กรที่คุณมองหา เราเชื่อว่าถ้าคุณอัปเดตโปรไฟล์กับ jobsDB ให้สดใหม่อยู่เสมอ และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน คุณอาจได้งานใหม่ภายใน 1 เดือน