ออโรร่า แตกแบรนด์ ออโรร่า ไดมอนด์ ร้านขายเพชร เจาะฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ หลังเห็นโอกาสตลาดเพชรแสนล้านเติบโตต่อเนื่อง หวังเพิ่มยอดขายอีก 40% เดินหน้าเปิดร้านอีก 30 สาขา ดันรายได้ 5,000 ล้าน
นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้แตกไลน์ธุรกิจเพื่อจำหน่ายเครื่องประดับเพชรอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ ‘ออโรร่า ไดมอนด์’ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคสมัยใหม่ เจาะกลุ่มอายุ 25 ปีขึ้นไป วัยทำงาน ประกอบกับเห็นโอกาสทางการตลาด จากปัจจุบันตลาดเพชรภายในประเทศมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท ประกอบกับฐานลูกค้าเดิมของออโรร่าที่ซื้อสินค้าทองรูปพรรณ มีความสนใจซื้อเพชร เพราะอยู่ในร้านเดียวกัน โดยช่วงที่ผ่านมายอดขายเพชรมีการเติบโตปีละ 40-50% ซึ่งคาดว่าออโรร่า ไดมอนด์ จะเพิ่มยอดขายบริษัทฯ โดยรวมให้เพิ่มสูงขึ้นได้อีกกว่า 40% ของรายได้เดิม
“เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพสินค้าของออโรร่า ไดมอนด์ เราจึงร่วมเป็นพันธมิตรระดับเวิลด์คลาสอย่าง สถาบัน IIDGR จากเดอเบียร์ ประเทศอังกฤษ และซารีน จากประเทศ อิสราเอล ออกสินค้าคอลเลคชั่น The Ultimate Love โดยเครื่องประดับเพชรทุกชิ้นได้รับการรับรองคุณภาพจาก 2 สถาบันดังกล่าว เป็นครั้งแรกของวงการเพชรในประเทศไทย ที่บริษัทคนไทย ได้รับการรับรองคุณภาพเพชรจาก ซารีน บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ในการเจียระไนเพชร เพื่อให้ได้เพชรที่สวยที่สุด ได้สมมาตรที่สุด เล่นไฟมากที่สุด และเปล่งประกายแวววาว ระยิบระยับระดับสูงสุด ชื่อ เพชรกลุ่มอัลติเมท เป็นประเภทที่หายากมาก และมีเพียง 2% ในโลกเท่านั้น “
สำหรับคอลเล็คชั่นแรก จะประกอบไปด้วยเครื่องประดับเพชรหลากหลายดีไซน์กว่า 200 แบบ แบ่งเป็นจี้ ต่างหู และแหวน ประดับทอง และทองขาว โดยได้แรงบันดาลใจจากความรักที่ออโรร่า ไดมอนด์ ตั้งใจมอบให้ผู้บริโภคผ่านทางเครื่องประดับเพชรทุกชิ้น โดยเน้นชูความเด่นของเพชร ด้วยดีไซน์สวย ทันสมัย มีความเป็นเฟมินีน ใส่ง่าย ใส่ได้ทุกวัน สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อผ้าได้หลากหลาย ในราคาที่เอื้อมถึง โดยราคาสินค้าเริ่มต้น 2.99 หมื่นบาทเท่านั้น โดยได้เริ่มวางจำหน่ายเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่สาขาในกรุงเทพฯ และจะทยอยส่งสินค้าให้ครอบคลุมยังสาขาต่างจังหวัดภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบันออโรร่า ไดมอนด์ มีสาขาราว 180 แห่งที่อยู่ในห้างเพชรทองออโรร่า และแบบสแตนอะโลน 9 สาขา รวมกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
นายอนิพัทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนภาพรวมธุรกิจช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท คาดว่าตลอดทั้งปีจะมีรายได้ 5,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นล้านภายใน 3 ปี โดยบริษัทดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้า 4 ประเภทคือ โมเดิร์น โกลด์ (ทองรูปพรรณ 96.5%) ดีไซน์ โกลด์ (ทองรูปพรรณ 75%) ดีไลท์ โกลด์ (ทองรูปพรรณต่างๆ รวมถึงเครื่องประดับมีค่า)และออโรร่า ไดมอนด์ (เครื่องประดับอัญมณี และเพชร) และบริการหลัก 1 บริการคือ บริการรับขายฝาก (ทองและเครื่องประดับมีค่า) ออโรร่า มีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 30 สาขา เน้นสาขาในห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก และได้เตรียมงบลงทุนอีก 80 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมหน้าร้านใหม่ราว 30 สาขา โดยคาดว่าสิ้นปี 2560 จะมีสาขารวมทั้งหมด 200 สาขาทั่วประเทศ