กะตะธานีฮุบดุสิตไอส์แลนด์ ทุ่ม1.4พันล.ปักหมุดบนแผ่นดินล้านนาเชื่อมท่องเที่ยว

24 ธ.ค. 2560 | 23:20 น.
กะตะธานีทุ่ม 1.4 พันล้าน ฮุบ ดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย ลงหลักปักฐานธุรกิจแรกบนดินแดนล้านนา เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชียงราย-ภูเก็ต เล็งรับลูกค้าระดับบน

ผู้สื่อข่าว “ฐานเศรษฐกิจ” ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย โดยนายสมบัติ อติเศรษฐ์ ประธานบริหาร กลุ่มโรงแรมกะตะธานี คอลเลคชั่น ได้เปิดตัวการเป็นเจ้าของใหม่ โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย อย่างเป็นทางการ หลังจากก่อนหน้านี้ กะตะธานี ซึ่งมีฐานธุรกิจโรงแรมอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพังงา ได้ซุ่มเจรจาจนสามารถปิดดีลการซื้อกิจการทั้งหมดของ โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย จากเจ้าของเดิมได้เป็นผลสำเร็จ เป็นการปิดตำนาน ดุสิต ไอส์แลนด์ ที่ได้เปิดบริการคู่เมืองเชียงราย มาตั้งแต่ปี 2532

MP21-3325-1A นายสมบัติ เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการโรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย ได้เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2559 โดยกะตะธานี มีแผนที่จะพัฒนากิจการให้เป็นไปในรูปแบบหรือสไตล์ของ “กะตะธานี คอล เลคชั่น” เช่นเดียวกันกับทุกโรงแรมในเครือ โดยโรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย จะมีการปิดปรับปรุงครั้งใหญ่เป็นเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561-31 กรกฎาคม 2561) เพื่อปรับปรุงภายในโรงแรมใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นรูปแบบไทยร่วมสมัย ผสมผสานความเป็นล้านนา โดยวงเงินที่ใช้ในการซื้อกิจการรวมไปถึงการพัฒนาคาดว่าจะประมาณ 1,400 ล้านบาท

“โรงแรมแห่งนี้ยังคงใช้ชื่อ ดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 หลังจากปิดปรับปรุง 4 เดือนเสร็จแล้ว เมื่อเปิดบริการใหม่ จะใช้ชื่อว่า โรงแรมเดอะ
ริเวอร์รี บาย กะตะธานี โดยจะมีชื่อภาษาจีนว่า ลี่เจียง ต้าจิ่วเตี้ยน ซึ่งแปลว่า แม่นํ้าที่งดงาม เพราะโรงแรมตั้งอยู่ใกล้กับแม่นํ้ากก กลางเมืองเชียงรายพอดี”

นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า หลังการปรับปรุง จะเป็นโรงแรม 5 ดาวอย่างแท้จริง เพื่อเข้าไปให้ถึงกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน จึงไม่ได้แข่งขันกับโรงแรมอื่นๆ ที่มีอยู่ในจังหวัดเชียงราย แต่จะเป็นการร่วมกันยกระดับการท่องเที่ยว ราคาห้องพักก็จะสอดคล้องกับมาตรฐานที่สูงขึ้น และจะเน้นเชื่อมกับโรงแรมในเครือที่มีอยู่แล้ว 6 แห่งในจังหวัดภูเก็ตและพังงา ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มนักท่องเที่ยวไปใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มยุโรป ออสเตรเลีย และช่วงหลังมีชาวจีนมากขึ้น

“การท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศลุ่มนํ้าโขง ตั้งแต่จีนตอนใต้ เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย และจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบทบาทมากในภูมิภาคเอเชีย ขณะนี้หลายประเทศมีการตื่นตัวเรื่องของการลงทุนด้านสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน หรือรถไฟความเร็วสูง ส่วนจังหวัดเชียงรายโดยพื้นที่แล้วเป็นประตูสู่อนุภูมิภาคลุ่มนํ้าโขงตอนบนของไทย เป็นเมืองที่มีธรรมชาติงดงาม มีวัฒนธรรมล้านนาที่เป็นเอกลักษณ์ จึงกลายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมากในทางการท่องเที่ยว อนาคตการท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายจะมีการเติบโตได้อีกมาก”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,325 วันที่ 24 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2560
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9