วานิไทย“เลือดจระเข้แคปซูล”รุกตีตลาดอาหารเสริม

24 ม.ค. 2561 | 04:57 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ม.ค. 2561 | 11:59 น.
“วานิไทย”จับมือม.เกษตรศาสตร์ ผลิตเลือดจระเข้แคปซูล ตีตลาดอาหารเสริม จับกระแสคนรักสุขภาพ พร้อมปรับแพ็คเกจใหม่ หวังต่อยอดส่งออกทั้งจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี

นางสาววิสาชิณี รุ่งทวีชัย เจ้าของฟาร์มจระเข้รุ่งทวีชัย และผู้ก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด วานิไทย เผยว่า วานิไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำการวิจัยเพื่อศึกษาคุณสมบัติทางชีววิทยาของจระเข้ จนได้เป็นสารสกัดเลือดจระเข้ในรูปแบบแคปซูลภายใต้ชื่อ “วานิไทย” โดยสามารถผลิตแคปซูลสารสกัดเลือดจระเข้ ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ ผ่านการตรวจสอบจากกรมการอาหาร และยา กระทรวงสาธารณสุข ถือว่าเป็น ต้นตำรับของผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้แคปซูล

vani1

ด้วยกระบวนการผลิตแบบการฟรีซดราย หรือการทำเยือกแข็ง ระบบสูญญากาศ ซึ่งจะคงคุณค่าทางโภชนาการได้ใกล้เคียงกับเลือดสดจริงมากที่สุด การฟรีซดรายเป็นการลงทุนที่สูง แต่คงคุณประโยชน์ของเลือดจระเข้ให้ได้มากที่สุด เพราะในเลือดจระเข้มีโปรตีนในรูปแบบกรดอะมิโน และมีธาตุเหล็กสูง จึงเหมาะกับผู้ป่วยโลหิตจาง และยังช่วยเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในเลือดจระเข้ยังมีอินซูลิน และกรดแฟล็คเตอร์ ที่ใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อีกทั้งสารสกัดจากเลือดจระเข้ยังช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันต่ำ และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

ทั้งนี้วานิไทย ยังได้ทำการศึกษาและวิจัยส่วนอื่นๆ ของจระเข้ เพื่อเตรียมต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกๆ ด้าน เช่น ซีรัมเลือดจระเข้ (Wani-Se) ที่ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้โดยตรง เหมาะกับผู้ป่วยด้านเบาหวาน กระดูกจระเข้ (Wani-B) ที่มีปริมาณแคลเซียมสูง ช่วยในเรื่องโรคกระดูกพรุนหรือกลุ่มคนที่กระดูกไม่แข็งแรง น้ำดีจระเข้ (Wani-D) ช่วยในเรื่องโรคจอประสาทตาเสื่อม รวมถึงระบบย่อยอาหารด้วย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในขั้นตอนการวิจัยในด้านอื่นๆ อีก เช่น ตับอ่อนและไข่จระเข้ เป็นต้น

728x90-03-3-503x62-3-503x62

ด้านการตลาดหลังจากผลิตภัณฑ์ได้วางจำหน่ายสู่ท้องตลาดในประเทศไทย ก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ดูแลสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง และในปีนี้มีแผนส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ และมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากต่างประเทศ หลังจากมีกลุ่มทัวร์ต่างประเทศติดต่อขอซื้อผลิตภัณฑ์เข้ามา ทำให้ในระยะเวลา 2 ปี สัดส่วนลูกค้าชาวต่างประเทศพุ่งสูงถึงร้อยละ 80 ของยอดขาย โดยปัจจุบันลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่คือประเทศจีน และนอกจากนี้ แบรนด์วานิไทยยังได้เตรียมส่งออกผลิตภัณฑ์ในอีกหลายๆ ประเทศรอบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ลาว, เวียดนาม, สหรัฐอเมริกาและเยอรมนีอีกด้วย

สำหรับแผนในปีนี้ เตรียมปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น และเตรียมเพิ่มช่องทางการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาให้แบรนด์ก้าวทันตลาดโลกในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ครอบคลุม สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย รวมถึงเคเบิ้ลทีวีและวิทยุกระจายเสียง เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าต่างจังหวัดได้ แสดงให้เห็นว่านอกเหนือจากแผนส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ต่างประเทศแล้ว วานิไทยก็ยังใส่ใจและพยายามเข้าถึงลูกค้าชาวไทยด้วย

e-book