รองปลัดเกษตรฯตั้งคณะตรวจสอบขายช่วงต่อโควตานมโรงเรียน ยืนยันทำไม่ได้ เตรียมเรียกคู่กรณีทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายเรียงคิวชี้แจง ขณะ “อบต./โรงเรียน ป่วนโวยสายตรงถึง “ศักดิ์ชัย” เด็กยังไม่ได้ดื่มนมเพียบ กังขาผู้ประกอบการในพื้นที่ไม่ได้ แต่ได้ต่างถิ่นแทน ด้านบิ๊กหนองโพ พร้อมชี้แจง-เตรียมโชว์หลักฐานความบริสุทธิ์ใจ
จากกรณี "ฐานเศรษฐกิจ" ฉบับที่ 3,117 วันที่ 27-30 ธันวาคม 2558 ได้พาดหัวข่าวลีดหน้า 6 เรื่อง โควตานมโรงเรียนขายช่วงกันเกร่อ บิ๊กหนองโพโต้ไม่ผิด/รองปลัดเกษตรฯฮึ่มสอบ นั้นล่าสุด นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์แนวทางปฏิบัติและการจัดสรรสิทธิ์พื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียน ภาคเรียนที่ 2 /2558 นั้นได้มีการจัดตั้งคณะตรวจสอบการขายช่วงต่อโควตานมโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว
นายศักดิ์ชัย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทางคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะตรวจสอบการขายช่วงต่อนั้น หากพบว่ากระทำผิดจริงจะใช้ตัดสิทธิ์ในเทอมต่อไป เพราะไม่ถูกต้อง และกระทำไม่ได้ ซึ่งในวิธีการนี้จะเชิญทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขาย ให้นำหลักฐานมาชี้แจงและให้ข้อมูลใน 1-2 สัปดาห์
ส่วนผลการตัดสินใจจะออกมาในรูปแบบใดนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ แต่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นในการจัดสรรพื้นที่จำหน่าย ทางคณะเองก็อะลุ้มอล่วยและบรรเทาความเดือดร้อนปัญหาของการโดนจัดสรรสิทธิ์ลดลงมาก ได้ให้ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) แบ่งสกุลนมโรงเรียน ช่วยเหลือแต่ละราย ประมาณ 50% ของจำนวนที่ปรับลดสิทธิ์พื้นที่จำหน่าย อย่างไรก็ดีปัญหานมโรงเรียนนี้ เหมาะที่สุดที่จะจัดในระบบนี้ ในอนาคตอาจจะมีระบบที่ดีกว่านี้
แหล่งข่าวจากองค์การบริหารส่วนตำบล ยางใหญ่ อ.เชียงขวัญ และโรงเรียน จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ได้โทรสายตรงถึงนายศักดิ์ชัย เกี่ยวกับเด็กยังไม่ได้ดื่มนมโรงเรียน หลังโรงเรียนเปิดเทอมตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา เบื้องต้นเห็นว่าทางกระทรวงจะแจ้งให้ อ.ส.ค.มาส่งแทน ก็แปลกใจว่าทำไมไม่ใช้ผู้ประกอบการในพื้นที่ แทนที่จะเป็นผู้ประกอบการต่างถิ่น ไม่เข้าใจการจัดสรรพื้นที่ของกระทรวงเกษตรฯ อย่างไรก็ดีทาง อบต.อยากจะเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเองมากกว่าที่ถูกระบุโดยหน่วยงานอื่น
ขณะที่นายกำพล รจนา ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมป์) กล่าวยืนยันความบริสุทธิ์ใจ พร้อมที่จะชี้แจง เนื่องจากการขายน้ำนมดิบให้กับสหกรณ์บ้านบึง เป็นธุรกิจการขายระหว่างสหกรณ์กับสหกรณ์ ที่ขายสกุลนมโรงเรียนให้ เป็นราคาตลาดที่ขายทั่วไป ไม่ได้บวกเพิ่มแต่อย่างใด และที่สำคัญพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นของสหกรณ์บ้านบึง หนองโพฯ ไม่สามารถไปจำหน่ายได้ แต่ขณะเดียวกันสหกรณ์เองไม่ได้ทิ้งตัวแทนจำหน่าย พยายามหาพื้นที่ใหม่ทดแทนให้ อาทิ พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น
"ระหว่างนี้ได้เตรียมหลักฐานต่างๆ ไว้เบื้องตน หากคณะกรรมการฯ จะเรียกได้ชี้แจง เนื่องจากการรับรองและขายสกุลนมโรงเรียน ให้กับสหกรณ์ อื่นผลิตแทน ส่วนใครจะหักค่าดำเนินการหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงและยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย ยกตัวอย่าง ปัจจุบัน อ.ส.ค. ได้ไปรับรองให้กับสหกรณ์อื่นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเทอมที่ใช้ในการจัดสรรสิทธิ์ใหม่นี้ และไม่ใช่รายเดียว ทุกสหกรณ์กระทำแบบนี้ และที่สำคัญคุณศักดิ์ชัย เป็นผู้จัดทราบเป็นอย่างดี"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,121 วันที่ 10-13 มกราคม พ.ศ. 2559