คลอดแล้ว!ประกาศกระทรวงสาธารณสุขปลดล็อกกิจการสปา-นวดเพื่อสุขภาพไม่จัดเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ส่งผลให้การเปิดร้านสปา-นวดเพื่อสุขภาพ ยื่นขออนุญาตที่กรมสบส.หรือ สสจ.แห่งเดียวเท่านั้น ช่วยลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการไม่ต้องขออนุญาตหลายที่และไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน
[caption id="attachment_260977" align="aligncenter" width="503"]
นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ[/caption]
นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรมสบส.) เปิดเผยว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ(ฉบับที่2)พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 โดยตัดกิจการสปาและกิจการนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพออกจากกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งมีผลให้ผู้ประกอบการไม่ต้องขออนุญาตกับท้องถิ่นอีกต่อไป โดยส่วนกลางให้มายื่นขออนุญาตที่กรมสบส.ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี ส่วนภูมิภาคให้ยื่นขออนุญาตที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ ทั้งยังลดภาระให้กับผู้ประกอบการ เนื่องจากไม่ต้องขอใบอนุญาตหลายใบและไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อน
[caption id="attachment_260979" align="aligncenter" width="503"]
นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล[/caption]
ด้านนายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประกาศนี้มีผลบังคับใช้กับผู้ประกอบการร้านสปา ร้านนวดที่มายื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการฯกับทางกรมสบส.หรือสสจ.เท่านั้น นอกจากนี้สถานประกอบการสปา โดยเฉพาะสปาในโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตฯจะได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตด้วย หากไม่มีใบอนุญาตฯก็ไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการยกเว้น และจัดเป็นสถานประกอบการฯเถื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากแขวนป้ายชื่อร้านว่าสปา นวดเพื่อสุขภาพหรือนวดเพื่อเสริมความงามโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องโดนโทษปรับอีกไม่เกิน 40,000 บาท
ผู้สนใจประกอบกิจการสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ สามารถศึกษารายละเอียดการยื่นขออนุญาตประกอบกิจการได้ที่คู่มือประชาชนในเว็บไซต์กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ(www.thaispa.go.th) หัวข้อ “ข้อมูลเผยแพร่”