AAVผุด3โปรเจ็กต์โตยั่งยืนดึงพันธมิตรต่างชาติลงทุนMROอู่ตะเภาซ่อมฝูงบิน205ลำ
“ธรรศพลฐ์” นั่งแท่นประธานกรรมการบริหาร มุ่งกำกับนโยบายภาพรวมบริหาร ดันบริษัทโตยั่งยืนโฟกัส การตั้ง MRO สนามบินอู่ตะเภา ไม่ลงทุนเอง แต่หาพันธมิตรต่างชาติมาลงทุน นำฝูงบินแอร์เอเชีย กรุ๊ป 205 ลำเข้าซ่อม นำไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารใหม่ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่ล่าสุดได้มีการเพิ่มตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ AAV และสายการบินไทยแอร์เอเชีย (TAA) ขึ้นมาใหม่ โดยบอสใหญ่ “ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์” ขยับจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO)ของสายการบิน มานั่งแท่นในตำแหน่งนี้แทน พร้อมดันลูกหม้อ “สันติสุข คล่องใช้ยา” ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ของสายการบินที่ทำงานร่วมกัน 11 ปี มานั่งเป็นซีอีโอของ AAV และ TAA แทน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2561
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างที่เกิดขึ้น จะทำให้การบริหารคล่องตัวยิ่งขึ้น เนื่องจากต่อไป “ธรรศพลฐ์” จะรับผิดชอบได้เต็มที่ในการกำกับดูเเลนโยบายภาพรวมการบริหาร ให้เป็นไปเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทซึ่งทิศทางของบริษัทกำลังจะก้าวต่อไปใน 2 หลักที่เป็นนิมิตหมายใหม่ในการขยายธุรกิจที่จะเกิดขึ้น
ต่อเรื่องนี้ นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น(AAV) และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย(TAA) กล่าวยืนยันว่าผมยังคง อยู่กับแอร์เอเชีย โดยจะให้ความสำคัญกับการบริหารภาพรวม และกำหนดทิศทางของบริษัท เพื่อมองหาโอกาสการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐและร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการบินต่อไป
บริษัทอยู่ระหว่างการผลักดัน 3 โครงการหลัก โครงการแรก คือ การพัฒนาโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภา ตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) เพื่อรองรับการซ่อมบำรุงอากาศของฝูงบินแอร์เอเชีย กรุ๊ปและแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่ปัจจุบันมีจำนวน 205 ลำ ได้แก่ แอร์บัส 320 และแอร์บัส 330 ซึ่งได้หารือกับภาครัฐในการจัดสรรพื้นที่
โดยการพัฒนา MRO ที่จะเกิดขึ้นบริษัทจะไม่ได้เป็นคนลงทุน แต่จะเน้นหาพันธมิตรจากต่างประเทศเข้ามาเป็นผู้ลงทุน และทำสัญญาว่าจะให้พันธมิตรเข้ามาดูแลการซ่อมบำรุงอากาศยาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร 2-3 ราย จาก
เยอรมนี, อังกฤษ คาดว่าหากได้ข้อสรุปกับพันธมิตร ก็พร้อมเปิดให้บริการศูนย์ซ่อมได้ภายในช่วงไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ปีหน้า
โครงการที่ 2 คือ การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ โดยมีแผนจะนำสายการบินเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯใน ปีหน้า
อย่างไรก็ตามแม้จะมีการปรับเปลี่ยนซีอีโอใหม่ ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพราะนายสันติสุข เป็นผู้บริหารที่ร่วมฝ่าฟันกันมากับ TAA ตั้งเเต่ยุคแรก มีประสบ การณ์วิสัยทัศน์และกลยุทธ์ด้านบริหารและการตลาดที่ยอดเยี่ยม ถือเป็นเบื้องหลังความสำเร็จ
ของ TAA ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่าต่อจากนี้ TAA จะเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่งแน่นอน
โครงการที่ 3 จะเน้นเรื่องการพัฒนาศูนย์ฝึกบิน-ลูกเรือ เพื่อพัฒนาบุคลากรในธุรกิจ การบิน
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ ของ AAV และ TAAกล่าวว่า การรับตำแหน่งใหม่ในฐานะซีอีโอ ถือเป็นความท้าทายที่จะนำพาบริษัทเติบโตต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน TAA มีรากฐานที่เเข็งเเกร่งเพราะมีทีมงานที่ดี มีวัฒนธรรมองค์กรเข้มแข็งซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เราไม่เคยหยุดนิ่งเพื่อการพัฒนา ต่อจากนี้ จะยังเดินหน้าตามแผน พร้อมนำนวัตกรรมมาสร้างสีสันเเละ โอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้บริษัทยังได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 11,642.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,004.1 ล้าน บาท ในขณะที่ TAA มีรายได้รวม 11,642.8 ล้านบาท และทำสถิติกำไรสุทธิที่ 1,834.6 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) อยู่ที่ 91% เพิ่มขึ้น 2 จุด โดยขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 5.64 ล้านคน เพิ่มขึ้น 16% สูงกว่าปริมาณที่นั่งที่เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนปี 2561 นี้ไทยแอร์เอเชียยังตั้งเป้ายอดผู้โดยสารสูงที่ 23.2 ล้านคน อัตราการขนส่งผู้โดยสารที่ 87% และรับเครื่องบินตลอดปี 7 ลำ จบสิ้นปีด้วยฝูงบินรวม 63 ลำ ซึ่งจะทำให้ TAA มีความแข็งแกร่งทั้งด้านผลการดำเนินงานและผลประกอบการในปีนี้แน่นอน