ภาษีนํ้าหวานพ่นพิษ “ดอยคำ” ยอดขายหด 40% เร่งปรับแผนส่ง “นํ้ามะเขือเทศ” ทวงคืนยอดขาย พร้อมเพิ่มช่องทางขายผ่านห้างสมัยใหม่ โชวห่วย และอี-คอมเมิร์ซ มั่นใจไฮซีซันฟื้นตัว โกยรายได้โต 30%
นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มและสินค้าภายใต้แบรนด์ “ดอยคำ” เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจใน 9 เดือนที่ผ่านมาพบว่ายอดขายตกลงมา 40% ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่มีค่าความหวานหรือนํ้าตาลมากกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือภาษีนํ้าหวานที่ภาครัฐประกาศออกมาตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคลดการดื่มนํ้าผลไม้ลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันเรื่องของภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคเช่นเดียวกัน โดยแผนการดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะกลับมาโฟกัสการทำตลาดในกลุ่มนํ้ามะเขือเทศ ซึ่งถือเป็นกลุ่มสินค้าหลักที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทมากกว่า 50% หลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการแตกไลน์สินค้าเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มนํ้าสมุนไพร และกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ
[caption id="attachment_330161" align="aligncenter" width="306"]
พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา[/caption]
ทั้งนี้จะให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังช่องทางรีเทล โมเดิร์นเทรด และเทรดิชันนัลเทรดมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางร้านดอยคำเป็นหลัก พร้อมกันนี้ยังจะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดไปยังช่องทางออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์ การโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนในการเปิดตัวการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) เข้ามาเสริมทัพในการกระตุ้นยอดขาย โดยมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ เบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของรูปแบบในช่องทางการวางจำหน่าย ทั้งในรูปแบบของเว็บไซต์ของบริษัทเอง หรือแม้กระทั่งมาร์เก็ตเพลสอื่นๆ
“แม้จากมาตรการภาษีนํ้าหวานจะส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้น แต่บริษัทก็ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาหรือผลักภาระให้แก่ผู้บริโภคแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้บริษัทยังสามารถแบกรับต้นทุนได้อยู่แม้กำไรจะลดลงมาขณะเดียวกันจากกระแสดังกล่าวก็ส่งผลให้ผู้บริโภครับดื่มนํ้าผลไม้ที่มีรสหวานน้อยลงเช่นกัน ส่งผลให้ต้องมีการปรับทิศทางการดำเนินงานบางส่วนเพื่อกระตุ้นยอดขายให้กลับมาอีกครั้ง”
พร้อมกันนี้ยังมีการขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่บริษัทเน้นทำตลาดกลาง-บนเป็นหลัก สู่กลุ่มลูกค้าในตลาดแมสมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆรวมถึงสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ให้แก่บริษัท ล่าสุดได้จับมือกับกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ไทยนํ้าทิพย์ จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมสนับสนุนผลผลิตในประเทศ ด้วยการใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทยที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพจากดอยคำ มาเป็นส่วนผสมใน 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่จากนํ้าผลไม้พร้อมดื่มมินิทเมด ได้แก่ มินิทเมด นํ้ามะเขือเทศผสมเนื้อส้ม และมินิทเมด นํ้ารสเสาวรสผสมนํ้าผึ้งและมะนาว เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆรวมถึงเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้
ขณะที่ช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นช่วงไฮซีซัน บริษัทตรียมเปิดแคมเปญใหญ่ประจำปีเพื่อกระตุ้นยอดขาย ควบคู่กับการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่อบแห้งจี๊ดจ๊าด เป็นต้น โดยมั่นใจว่าจากการกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่องจะสามารถผลักดันยอดขายเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายได้ที่ 30% ซึ่งจะสามารถช่วยไดรฟ์ยอดขายของบริษัทให้กลับมาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในสิ้นปีนี้ไว้ไม่เกินที่ 3% ทรงตัวจากปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่วางไว้ 2,400 ล้านบาท ขณะที่ในปีหน้าคาดการณ์ว่าจะปิดรายได้ที่ 2,100 ล้านบาท ทั้งนี้ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นคาดการณ์ว่าน่าจะมาจากปัจจัยบวกของตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย บวกกับภาพรวมกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวของภาคประชาชน
................................................................................................
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,408 ระหว่างวันที่ 11-13 ตุลาคม 2561