'บีบีจีไอ' จี้! รัฐใช้ "เอทานอล-ไบโอดีเซล" เพิ่มขึ้น

17 ต.ค. 2561 | 08:49 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2561 | 21:58 น.
นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ("BBGI" หรือ บริษัทฯ) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่เข้าลงทุนในบริษัทอื่นที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซลและผลิตภัณฑ์พลอยได้ รวมถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมเอทานอลไทยมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ซึ่งได้วางแผนพัฒนาพลังงานทดแทนด้วยมาตรการส่งเสริมการผลิตและการใช้เอทานอล โดยมีเป้าหมายภายในปี 2579 ปริมาณการผลิตเอทานอลเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซินจะอยู่ที่ 11.30 ล้านลิตรต่อวัน จากปี 2560 ที่มีปริมาณการใช้เอทานอลอยู่ที่ 3.91 ล้านลิตรต่อวัน โดยตั้งแต่ปี 2550-2560 ปริมาณการใช้เอทานอลมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 19.8

 

[caption id="attachment_334172" align="aligncenter" width="335"] ชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน)[/caption]

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนไทยมีศักยภาพและพร้อมลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตเอทานอล ทั้งนี้ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีกำลังการผลิตเอทานอลรวม 5.79 ล้านลิตร จากฐานการผลิตรวม 26 โรงงาน ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตส่วนใหญ่มาจากกากน้ำตาลที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาล โดยในปี 2560 มีปริมาณกากน้ำตาลที่เหลือจากการบริโภค และสามารถนำมาผลิตเอทานอลได้ประมาณ 5.00 ล้านตัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5.79 ล้านตัน ในปี 2562 ซึ่งกากน้ำตาลดังกล่าวสามารถนำมาผลิตเอทานอลได้ประมาณ 3.29 ล้านลิตรต่อวัน ในปี 2560 และ 3.81 ล้านลิตรต่อวันในปี 2562 ดังนั้น อุตสาหกรรมเอทานอลของไทยมีความมั่นคงด้านวัตถุดิบที่เพียงพอที่จะสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ที่ต้องการผลักดันการใช้เอทานอลเป็นส่วนผสมในน้ำมันเชื้อเพลิงให้มากขึ้น


Print

"ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเอทานอลรายใหญ่ของประเทศ เราพร้อมลงทุนขยายกำลังการผลิตเพื่อสนับสนุนภาครัฐที่มีเป้าหมายผลักดันการใช้เอทานอลเพื่อทดแทนการใช้น้ำมันเบนซิน เนื่องจากเรามีความมั่นคงด้านวัตถุดิบจากกากน้ำตาลที่สามารถนำมาผลิตเป็นเอทานอลในปริมาณมากพอ" นายชลัช กล่าว

595959859

090861-1927-9-335x503-3