นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้สั่งการด่วนที่สุด เรื่อง
"การดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม" ตามที่ได้เกิดพายุฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมใน จ.ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีนั้น ขอให้ปลัดเกษตรและสหกรณ์และหัวหน่วยราชการทุกระดับ ได้กำชับให้ ทุกสังกัดที่ทำงานในพื้นที่จังหวัดที่ประสบอุทกภัยให้มุ่งมั่นและตั้งใจลงไปดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมตามแนวทาง ดังนี้
"ให้เกษตรจังหวัดในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับจังหวัด (อ.พ.ก.) จังหวัดได้รวบรวมสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำท่วมในด้านต่าง ๆ เพื่อรายงานผู้ว่าจังหวัดทราบทุกระยะ พร้อมทั้งเสนอให้เรียกประชุม อ.พ.ก.จังหวัด เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากน้ำท่วมที่มีต่อเกษตรกรในพื้นที่ด้วย และให้เกษตรจังหวัดได้ประสานกับกรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน และกรมปศุสัตว์ และกรมวิชาการเกษตรในพื้นที่ เพื่อสนธิกำลังรวมกันเป็นทีมงานเดียวกัน (One Team For All Jobs) ลงไปสำรวจความเดือดร้อนของเกษตรกรด้านต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามภารกิจของแต่ละกรมหรือแต่ละหน่วยด้วย โดยไม่ควรแยกหน่วยกันทำงาน เพราะอาจจะทำให้การช่วยเหลือเกษตรกรล่าช้า ซ้ำซ้อน และไม่มีเอกภาพ ในทางตรงข้ามการทำงานในรูปแบบทีมเดียวกันนั้น จะช่วยแบ่งเบาภารกิจซึ่งกันและกันด้วย"
นายกฤษฎา กล่าวว่า เพื่อให้การแบ่งภารกิจงานตามข้อ 2 ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ จึงขอให้แบ่งพื้นที่แล้วกำหนดเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจากแต่ละหน่วยเข้าไปรับผิดชอบแก้ไขปัญหาประจำพื้นที่นั้น ๆ เช่น การระบายน้ำ/การสำรวจความเสียหายและการเยียวยาช่วยเหลือด้านพืช ด้านปศุสัตว์ ด้านประมงฯลฯ โดยให้ประสานงานการปฏิบัติกับนายอำเภอและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่นั้น ๆ ด้วย พร้อมขอให้กำชับเจ้าหน้าที่ ๆ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ/จัดจ้างวัสดุ ครุภัณฑ์ หรือ การซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ด้านการเกษตร ชลประทาน ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบทางราชการที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องตามขั้นตอน โดยเคร่งครัดและให้คำนึงถึงประโยชน์ที่เกษตรกรและทางราชการจะได้รับด้วย
หากพบว่า ข้าราชการหรือหน่วยงานในสังกัดคนใดหรือหน่วยใดได้ใช้ความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ถูกน้ำท่วมอุกภัยครั้งนี้ไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบแล้ว ให้ดำเนินการสอบสวนโดยเร็ว และลงโทษทางวินัยโดยเฉียบขาดด้วย ขอให้เตรียมการชดเชยช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง เพื่อให้การช่วยเหลือมีความรวดเร็ว สามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ที่ผลผลิตเสียหาย เช่น ทะเบียนเกษตรกร การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอให้มอบหมายผู้ตรวจกระทรวงกรมทุกกรมลงพื้นที่ตรวจติดตามบูรณาการทรัพยากรและการปฏิบัติงานของหน่วยงานในพื้นที่ด้วย เพื่อสดับตรับฟังสภาพปัญหาการทำงาน รวมทั้งแนะนำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ หากมีปัญหาอุปสรรคที่เกินกำลังความสามารถของพื้นที่ ให้แจ้งขอรับการสนับสนุนมายังส่วนกลางโดยทันที ทั้งนี้ มอบหมายอธิบดีหรือผู้บริหารเทียบเท่ากรมทุกกรมให้เตรียมความพร้อมและจัดทำบัญชีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปกติและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการพื้นที่น้ำท่วมประสบอุทกภัยไว้ด้วย เพื่อให้พร้อมสนับสนุนการเผชิญเหตุได้ทันการณ์ เมื่อได้รับการร้องขอจากจังหวัดพื้นที่นำท่วมไว้ด้วย เช่น เครื่องมือ อุปกรณ์การสูบน้ำ ระบายน้ำ เจ้าหน้าที่นักวิชาการ สัตวแพทย์ เสบียงสัตว์ เครื่องจักรกล ยานพาหนะ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ เป็นต้น
ในส่วนของกระทรวง มอบหมายรองปลัดเป็นประธานศูนย์อำนวยการและบัญชาการสถานการณ์ โดยมีสำนักแผนงานและโครงการพิเศษเป็นฝ่ายเลขาฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ประเมินความเสี่ยงจากปริมาณฝนและน้ำท่าที่จะเพิ่มขึ้น รวบรวมข้อมูลความเสียหายและความต้องการช่วยเหลือ ประสานความร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และสรุปรายงานสถานการณ์ภาพรวมเป็นรายวันจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ