“นารายา” เปิดแนวรบปี 62 เดินหน้าขยายอี-คอมเมิร์ซทั่วโลก หลังปักหมุดไอคอนสยาม เปิดแฟล็กชิพสโตร์รวม 6 แบรนด์ หวังปั้นแบรนด์ใหม่เข้าตานักช็อปไทย-เทศ พร้อมเพิ่มแพลตฟอร์มสร้างแบรนด์ผ่านออนไลน์
นางวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นารายามุ่งมั่นที่จะพัฒนาแบรนด์ในประเทศไทยและในระดับโลก เพื่อที่จะก้าวไปยังตลาดใหม่ๆ โดยในปี 2562 นารายาจะมุ่งเน้นไปที่การขยายกิจการไปยังอี-คอมเมิร์ซทั่วโลก และต้องการที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับนารายาในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมองหาช่องทางการขายใหม่ๆ เพื่อที่จะตอบโจทย์ลูกค้าหลักของนารายาด้วย ขณะที่การเปิดตัว Tea room ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ถือเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกที่จะช่วยพัฒนาแบรนด์และความเป็นนารายาเพื่อผู้บริโภค ต้อง การที่จะรู้ถึงประสิทธิภาพเพื่อที่จะขยายร้านค้าของเรา
“ภายในปีหน้านี้อี-คอมเมิร์ซจะเติบโตอย่างมากในประเทศไทยและอาเซียน โดยเห็นจากจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเปิดตัวของไอคอนสยามและแบรนด์ใหม่ของนารายา ทำให้เห็นลูกค้ากลุ่มใหม่สำหรับแบรนด์ของเรา สุดท้ายเราจะมุ่งเน้นไปที่การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ อาทิประเทศจีน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น โดยคาดหวังว่าโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ๆ จะทำให้เราสามารถช่วยประเทศไทย เนื่องจากสินค้าทุกชนิด เป็นสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย”
[caption id="attachment_361164" align="aligncenter" width="336"]
วาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส[/caption]
อย่างไรก็ดีหลังจากที่บริษัททำตลาดผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ “นารายา” และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะถูกจัดให้เป็นสินค้าแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติรู้จักและเลือกซื้อ ทำให้บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ และพัฒนาสินค้างานฝีมือที่ทำจากฝีมือของคนไทย ให้ไปอวดโฉมสู่สายตาผู้บริโภค ในปีนี้นารายาได้เปิดแฟล็กชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดด้วยพื้นที่กว่า 1,350 ตร.ม. ณ ไอคอนสยาม ซึ่งจะทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยภายในแฟล็กชิพสโตร์นี้ ประกอบไปด้วย แบรนด์ “นารายา” (NaRaYa) , “นารา บาย นารายา” (Nara by NaRaYa), “ลา ลา มะ บาย นารายา” (LaLaMa By NaRaYa), “อะโฟรดิเต้ บาย นารายา” (Aphrodite by NaRaYa) และ “เอแวนเจลิซ่า นารายา ซิลค์” (Evangelisa NaRaYa Silk)
นอกจากนี้ยังเปิดร้าน “นารายา ที รูม” (NaRaYa Tea Room) ร้านชาในสไตล์นารายาแห่งแรกในประเทศ เพื่อรองรับลูกค้าที่มาช็อปปิ้งภายในร้านนารายา นอกจากนี้ในปีหน้า บริษัทเตรียมเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำนวน 4 กลิ่น และจะสร้างแบรนด์ให้เป็นสินค้าคู่กับสินค้าของนารายา โดยจะทำเป็น Travelling kit เน้นกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วย
ที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเน้นทำการตลาดออนไลน์โดยเพิ่มประสบการณ์การช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ บนแพลตฟอร์มของอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้ลูกค้าต่างชาติน่าจะสามารถ ช็อปปิ้งสินค้านารายาผ่านทางอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในจีน
ได้ อาทิ Alibaba, VIP.com และ Yun G (ยุนจี) นอก จากนี้ยังมี KARA โซเชียลคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มน้องใหม่
ที่กำลังมาแรงในโลกดิจิตอลอีกด้วย ซึ่งในขณะนี้ลูกค้าในไทยก็สามารถสั่งซื้อนารายาผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้วที่ Lazada และ JD Central และเมื่อแคมเปญ 11.11 ของลาซาด้าที่ผ่านมายอดขายของนารายาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าของแบรนด์ในตลาดออนไลน์ที่ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี
“ในปีหน้าบริษัทจะมุ่งเน้นกลยุทธ์ ดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง พร้อมสร้างแบรนด์ที่มีอยู่ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,427 ระหว่างวันที่ 16-19 ธันวาคม 2561