สร้างคาแรกเตอร์ให้ธุรกิจ สูตรสำเร็จ 'เล็ตส์ซี-โลลิโก' หัวหิน

20 มี.ค. 2559 | 07:00 น.
หลังสั่งสมประสบการณ์จากการคร่ำหวอดในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขาย ในโรงแรมอินเตอร์เชนสุดหรูมาหลายแห่ง ยาวนานร่วม 12 ปี จนตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ ลงทุนโรงแรมขนาดเล็กของตัวเอง และทุ่มเทในการบริหารเอง จนสร้างชื่อ "เล็ตส์ซี หัวหิน อัลเฟรสโก รีสอร์ท" ติดตลาดโรงแรมสำหรับคู่รักมาจนถึงวันนี้ ทั้งล่าสุดก็เพิ่งจะเปิดตัวโรงแรมใหม่ในฝั่งตรงข้ามกันอย่าง "โลลิโก หัวหิน" รวมถึงขยายการรับบริหารโรงแรมฦทธิ์ ในกรุงเทพฯอีกด้วย การดำเนินธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กเช่นนี้ ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จอ่าน จากสัมภาษณ์นายศรายุทธ เอกะหิตานนท์ หัวหน้าฝ่ายบริหารเล็ตส์ซี หัวหิน อัลเฟรสโก รีสอร์ท และ โลลิโก้ รีสอร์ท หัวหิน

[caption id="attachment_38568" align="aligncenter" width="377"] ศรายุทธ เอกะหิตานนท์  หัวหน้าฝ่ายบริหารเล็ตส์ซี หัวหิน อัลเฟรสโก รีสอร์ท และ โลลิโก้ รีสอร์ท หัวหิน ศรายุทธ เอกะหิตานนท์
หัวหน้าฝ่ายบริหารเล็ตส์ซี หัวหิน อัลเฟรสโก รีสอร์ท และ โลลิโก้ รีสอร์ท หัวหิน[/caption]

 ชู 2 จุดขายที่แตกต่าง

คุณศรายุทธ เปิดใจถึงจุดเปลี่ยนในการก้าวเป็นเจ้าของธุรกิจว่า จริงอยู่ที่ตอนนั้นเป็นลูกจ้างก็ได้ถือว่าได้ทำงานที่ดีมาก แต่จะมองเพียงเรื่องเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองถึงความก้าวหน้าไปกับองค์กร ที่ต้องสอดคล้องกับศักยภาพที่เรามีด้วย และเขาคิดว่าคนเราไม่ควรติดอยู่กับที่ ดังนั้นเมื่อเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นจริง เขาจึงเลือกที่จะคว้าไว้ เมื่อเพื่อนร่วมเรียนหนังสือกันมาตั้งแต่เด็กมีที่ดินติดทะเลหัวหินอยู่ ตอนนั้นมีอยู่ 2 ไร่ เมื่อปี 2547 มาร่วมกันคิดที่จะพัฒนา ซึ่งเริ่มต้นเพียงร้านอาหารริมทะเล เล็ตส์ซี หัวหิน ที่แม้จะเปิดมานานแต่ก็ขึ้นชื่อความเป็นร้านอาหารริมทะเลที่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องของบรรยากาศ ดีไซน์ของอาหาร และบริการมาตรฐานระดับโรงแรม ที่ป็อปปูล่าร์อยู่จนถึงทุกวันนี้ แถมยังเป็นร้านอาหารในยุคแรกๆ ที่มีการคิดค่าเซอร์วิสชาร์จจากลูกค้าด้วย เพราะเขาต้องการให้พนักงานรับรู้ถึงความแตกต่างในการทำงาน เพื่อพัฒนาการให้บริการ เพื่อแลกกับกำลังใจที่พนักงานจะได้รับ

เมื่อธุรกิจร้านอาหารไปได้สวย ก็มองซื้อที่เพิ่มเชื่อมต่อกับร้านอาหารเล็ตส์ซี หัวหิน เพื่อต่อยอดไปสู่ธุรกิจโรงแรม นั่นก็คือ เล็ตส์ซี หัวหิน อัลเฟรสโก รีสอร์ท ซึ่งดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์คู่รัก ด้วยห้องพักขนาด 40 ห้อง แต่มีสระว่ายน้ำยาวถึง 120 เมตร ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติทั้งยุโรปและจีนที่มีกำลังซื้อสูง และโรงแรมแห่งนี้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยกว่า 89-90% ในช่วงไฮซีซัน และ70% ปลายๆในช่วงโลว์ซีซัน

ทั้งล่าสุดเพิ่งเปิดให้บริการโลลิโก้ รีสอร์ท หัวหิน ขนาด 48 ห้องฝั่งตรงข้ามเล็ตส์ซี หัวหิน อัลเฟรสโก รีสอร์ท โดยได้ไปซื้อกิจการโรงแรมแห่งหนึ่งและทำการรีโนเวตใหม่ ใช้งบราว 40 ล้านบาท ซึ่งการขยายการลงทุนใหม่ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการสร้างโรงแรมใหม่ เพื่อตอกย้ำให้เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายในหัวหิน ซึ่งรีสอร์ตแห่งนี้จะเน้นเจาะลูกค้าที่เป็นเพื่อนกันและกลุ่มครอบครัว บางห้องที่จัดเตียงแบบซุปเปอร์คิงไซส์ ขนาด 10 ฟุต สามารถรองรับลูกค้าได้มากถึง 5 คน เราสร้างจุดขายที่แตกต่างให้กับทั้ง 2 โรงแรมที่เราลงทุน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ซึ่งหลังเปิดให้บริการมาไม่นานถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งโลลิโก้ ราคาจะปานกลาง 2-3 พันบาทต่อคืน ห่างทะเลเพียง 100 เมตร ออกแบบสไตล์เรทโทร เน้นกลิ่นอายชุมชนเล็กๆ ของหมู่บ้านชาวประมงผสานการพักผ่อนในมารีน่า เน้นการตกแต่งรีสอร์ตสไตล์ร่วมสมัย

 โฟกัสการบริหารบรรยากาศ

ทั้งนี้ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่เกิดขึ้น เขามองว่าเป็นเรื่องของการบริหารบรรยากาศ ให้สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องสร้างความชัดเจนให้แก่ธุรกิจ ไม่ใช่ลูกค้าจ่ายเงินแล้วรับหมด แต่ต้องสร้างคาแรกเตอร์พิเศษ ให้เป็นจุดแข็ง เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน

"เราอาจจะไม่ได้เป็นนักลงทุนที่ไม่ฉลาดที่สุด เพราะแม้จะมีพื้นที่มาก แต่เราไม่ได้สร้างจนแน่น บางครั้งต้นทุนของเราอาจจะสูงกว่าคนอื่น แต่มองความมั่นคงในระยะยาว ที่ต้องมีคาแรกเตอร์ที่เด่นชัดและแตกต่าง ซึ่งจะต้องทำให้บาลานซ์กัน แล้วธุรกิจก็จะไปได้ด้วยดี ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าจะชอบความแตกต่าง ชอบสินค้าของเรา และวิธีการบริการ ดังนั้นไม่เพียงการออกแบบที่เอกลักษณ์ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าชัดเจน แต่การบริการเป็นสิ่งที่เราเน้นย้ำ เพราะการที่เราบริหารเอง ไม่ได้ใช้เชนโรงแรมมาให้บริหาร ทำให้เราใส่ใจในทุกรายละเอียดได้เต็มที่"

วางคาแรกเตอร์ให้ธุรกิจที่รับบริหาร

นอกจากการบริหาร 2 โรงแรมของตัวเองแล้ว เขายังรับบริหารโรงแรมฦทธิ์ (LIT) กรุงเทพฯด้วย ซึ่งเป็นส่วนของโรงแรมจำนวน 79 ห้องและเรสสิเด้นท์ 40 กว่าห้อง ของนักธุรกิจที่ทำธุรกิจรถแทรกเตอร์ และเคยมาพักที่เล็ตส์ซี หัวหิน อัลเฟรสโก รีสอร์ท และอยากให้เราเข้าไปบริหารให้ ซึ่งเราเข้าไปช่วยดูตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง สร้างจุดขายและวางคอนเซ็ปต์ให้ จึงจะเห็นว่าโรงแรมนี้มีจุดขายชัดเจนเช่นกัน เน้นเรื่องของไลท์ติ้ง ดีไซน์ สื่อถึงการใช้ชีวิตในกรุงเทพฯอย่างสดใส

จุดยึดของการรับบริหารโรงแรม จะเห็นว่าเราไม่ได้ใส่ชื่ออะไรที่สื่อถึงชื่อของเราในการรับบริหารเหมือนการขยายการรับบริหารโรงแรมเหมือนที่อื่นๆ เพราะเรามองว่าเราไม่ใช่แลนด์ดีเวลล็อปเปอร์ หรืออินเวสเตอร์ แต่เราเป็นนักการโรงแรม Hotelier ที่ต้องการนำศักยภาพของเราไปช่วยนักลงทุนที่สนใจทำธุรกิจโรงแรม ดังนั้นสิ่งที่เราทำคือ การรับบริหารเพื่อช่วยให้ธุรกิจของเขา มีคาแรกเตอร์ และอยู่ได้ ไม่ได้ต้องการขยายอาณาจักรของตัวเอง แต่มองที่จะบริหารโอกาสที่จะเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการไม่หยุดที่จะเรียนรู้หรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,140 วันที่ 17 - 19 มีนาคม พ.ศ. 2559