ถ่าน ‘กัมมันต์’ชื่อไม่คุ้นแต่คุณประโยชน์เพียบหนุนรักษ์โลก-ลดนำเข้า
การตัดสินใจทำธุรกิจอะไรก็ตาม นอกจากคำนึงถึงผลกำไรที่จะตามมาแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกองค์กรควรให้ความสำคัญต่อการลดสร้างปัญหามลพิษและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เช่นเดียวกับบริษัท ไร้ท์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “RSP” รับผิดชอบด้านการตลาด และ บริษัท ไรท์ รีแอค ติเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ RRP รับผิดชอบด้านการผลิต เกิดจากการรวมตัวของพี่น้องตระกูล “ธีรกุลวาณิช” โดยเฉพาะเรือธงหลักอย่าง “ณัฐ” ณัฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ “แสง” แสงชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสื่อสารองค์กร กล่าวผ่าน “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า เริ่มต้นธุรกิจด้วยแนวคิดที่ว่าธุรกิจนั้นจะต้องไม่สร้างปัญหามลพิษ!
จุดเริ่มของธุรกิจจากบทบาทผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านกัมมันต์ แต่ด้วยความที่ทั้งคู่เรียนจบมาทางสายวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม พัฒนาธุรกิจ จึงมุ่งพัฒนาธุรกิจจนมาสู่การออกแบบเครื่องจักร เปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้ากลายมาเป็นผู้ผลิตถ่านกัมมันต์ในที่สุด
ณัฐสิทธิ์ ธีรกุลวาณิช
3กลุ่มหลักใช้ถ่านกัมมันต์
“ณัฐ” และ “แสง” เล่าว่าปัจจุบันถ่านกัมมันต์ แม้ชื่อเรียกจะไม่คุ้นชินนัก แต่คุณประโยชน์มีมากมาย หลักๆ จะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ 3 ทาง คือ 1.ใช้สำหรับเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในขั้นตอนการผลิตมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นและสีและสารเคมีบางชนิด 2.ทุกโรงงานสามารถนำไปใช้ในการบำบัดนํ้าเสียเพื่อนำไปผลิตเป็นนํ้าดีกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตได้ และ 3. นำไปบำบัดมลพิษทางอากาศ โดยมีถ่านกัมมันต์ที่หลากหลายขนาด อาทิ แบบผง (Powder) แบบเม็ด (Granular) และแบบอัดแท่ง (Extruded) ที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับสูง เหมาะสมต่อการใช้งานทั้งอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมสี ฟอกย้อม อุตสาหกรรมพลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และอื่นๆ อีกมากมาย
แสงชัย ธีรกุลวาณิช
ปี 2558 จึงขยับตัวครั้งสำคัญแปรสภาพจากผู้นำเข้า มาสู่การเป็นผู้ผลิตถ่านกัมมันต์ ดำเนินการผลิตในนาม บริษัท ไรท์ รีแอคติเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ RRP ตั้งโรงงานผลิตที่จังหวัดระยอง มีขนาดกำลังผลิตราว 9,600 ตันต่อปี โดยวัตถุดิบที่นำมาใช้ในกระบวนการผลิตส่วนใหญ่ประกอบด้วย กะลามะพร้าว กะลาปาล์ม และไม้ไผ่ ที่นำมาผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูงเกือบ 1,000 องศาเซลเซียส
ปัจจุบันบริษัทก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตถ่านกัมมันต์แบบครบวงจร และได้พัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลถ่านกัมมันต์ด้วยตัวเอง และจดสิทธิบัตรในชื่อ ระบบเตาหมุนสำหรับกระบวนการฟื้นฟูสภาพถ่านกัมมันต์ใช้แล้ว
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถ่านชาร์โคล ซึ่งมีจุดเด่นในด้านกระบวนการผลิตเป็นแบบต่อเนื่อง ประหยัดพลังงานโดยการนำควันที่ได้รับจากการเผาถ่านมาเป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียน และเป็นระบบเผาถ่านที่ไร้ควัน ไร้มลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ทุ่ม100ล้านขยายเพิ่ม
“ณัฐ”และ “แสง” ยังฉายภาพให้เห็นอีกว่าธุรกิจเริ่มต้นเมื่อปี 2544 จนถึงปัจจุบัน เข้าสู่ 18 ปีเต็ม หรือเปรียบว่าอยู่ในวัยที่แตกหนุ่ม มีฐานลูกค้ากระจายอยู่ทั่วประเทศเกือบ 1,000 ราย มีช่องทางขายตรงไปยังโรงงานต่างๆด้วยสัดส่วนถึง 90% และอีก 10% ขายผ่านตัวแทนจำหน่าย
ล่าสุดธุรกิจอยู่ระหว่างการขยับตัวอีกครั้ง โดยRRP ทุ่มงบลงทุนราว 100 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ที่จังหวัดประจวบฯโรงงานแห่งนี้มีขนาดกำลังผลิต 240 ตันต่อปี ถือเป็นการตั้งโรงงานในพื้นที่ศูนย์รวมแหล่งวัตถุดิบคือกะลามะพร้าวที่จะมารองรับตลอดสายการผลิต
ณัฐมีแผนว่าภายในปี2563 จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกมากขึ้น โดยปัจจุบันผลิตเพื่อขายในประเทศ 95% และ5 %ส่งออกไปยังประเทศในแถบเอเซีย จะปรับสัดส่วนการตลาดเป็นขายในประเทศ 80% และส่งออก 20% ซึ่งปัจจุบันมีการนำเข้าถ่านกัมมันต์เป็นเงินมูลค่าต่อปีราว 1,000 ล้านบาท
ปี 2561 ทั้ง 2 บริษัท มีมูลค่ายอดขายรวมต่อปี อยู่ที่ 550 ล้านบาท อีก 5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าว่า“ RSP ” จะมียอดขายราว 1,000 ล้านบาท (ปัจจุบัน 500 ล้านบาท) และ RRP จะมียอดขายราว 300 ล้านบาท (ปัจจุบัน 50 ล้านบาท)
นอกจากการขยายกำลังผลิตแล้ว บริษัทยังมีแผนขยายช่องทางการขายในรูปของออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง รวมถึงการพัฒนาแปรรูปการใช้ถ่านกัมมันต์มาใช้ในครัวเรือนมากขึ้น เช่น ในรูปของที่ดับกลิ่นในตู้เย็น และถ่านสำหรับปิ้งย่าง เป็นต้น
ปัจจุบันถ่านกัมมันต์มีราคาจำหน่ายกิโลกรัมละ 55-70 บาท หากลูกค้านำถ่านกัมมันต์ที่ซื้อไปแล้วและมาจ้างบริษัทฟื้นฟูใหม่ ราคาจะถูกกว่าเดิมถึง 50% ซึ่งการรับมาให้บริการฟื้นฟูถ่านกัมมันต์จนหมดอายุการใช้งานสามารถทำได้มากกว่า 3 ครั้ง จะเป็นวิธีการให้บริการที่ช่วยประเทศลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และช่วยลูกค้าลดต้นทุนรวมในการผลิตได้
วันนี้การเติบโตของทั้ง 2 บริษัทได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว โดยหลักคือลดปัญหามลพิษ หนุนรักษ์โลกและลดนำเข้า!
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,469 วันที่ 12 - 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
