จากทุเรียนกิโลกรัมละ 5 พัน สู่ปั้นแบรนด์ อ.ต.ก. ขายทั่วโลก

01 มิ.ย. 2562 | 04:20 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มิ.ย. 2562 | 11:21 น.

        “ทุเรียน” ราชาผลไม้ไทยโด่งดังไปทั่วโลก และยิ่งปังมากหลังจากที่อาลีบาบานำทุเรียนไทยซื้อ-ขาย ตลาดออนไลน์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ยอดความต้องการบริโภคทุเรียนไทยในเมืองจีนพุ่งกระฉูดจนแทบไม่พอขาย ดันราคาทุเรียนไทยทั้งในเมืองไทยและเมืองจีนอัพราคาขึ้น ชาวสวนทุเรียนลืมตาอ้าปากกันได้ถ้วนหน้า

จากทุเรียนกิโลกรัมละ 5 พัน สู่ปั้นแบรนด์ อ.ต.ก. ขายทั่วโลก

     องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นที่รู้จักในชื่อของ ตลาด อ.ต.ก.ที่สร้างชื่อเสียงตลาดสดที่ดีที่สุดติดอันดับ4 ของโลก สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อยด้วยการสร้างตำนานใหม่ขายทุเรียนราคาขั้นตํ่ากิโลกรัมละ 3,000 บาท สูงสุดกิโลกรัมละ 5,000 บาท 

        “นายกมลวิศว์ แก้วแฝก” ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. เล่าที่มาของความสำเร็จว่า เกิดจากแนวคิดที่ต้องการทำการตลาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าว่าต้องการทุเรียนรสชาติแบบไหน หวานมาก หวานน้อย หรือหวานกรอบ เมื่อได้รับทราบความต้องการแล้ว อ.ต.ก.จะคัดทุเรียน ซึ่งในทุเรียน 1 ลูกจะมีรสชาติไม่เหมือนกัน บางพูสุก บางพูยังไม่สุก บางพูหวานเจี๊ยบ บางพูจืด 

       “ดังนั้นการที่จะได้ทุเรียนตรงตามความต้องการ ใน 1 กิโลกรัม ต้องใช้ทุเรียน 4-5 ลูก ราคาที่ขายก็ต้องสูงตามคุณภาพไปด้วย อาทิ ทุเรียนหมอนทอง ราคา 3,000 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าเป็นทุเรียนก้านยาวราคา 5,000 บาทต่อกิโลกรัม อยากได้เนื้อแบบไหน นุ่ม กรอบ หรือหวาน  ถ้าไม่พอใจสามารถคืนเงินได้”

       โดยในอนาคต อ.ต.ก.จะทำป้ายรับรองมาตรฐานสวนทุเรียน หากลูกค้าซื้อทุเรียนแล้วมีปัญหา ถ้าเห็นป้ายรับรองมาตรฐาน อ.ต.ก. สามารถนำสินค้ามาเปลี่ยนที่ อ.ต.ก.ได้ทันที ส่วนสวนทุเรียนที่ได้รับรองมาตรฐาน อ.ต.ก.ก็จะทำให้ได้ราคาผลผลิตดีขึ้น  

        นายกมลวิศว์ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถขายทุเรียนหน้าสวน ได้ในราคาเดียวกับตลาด อ.ต.ก. แต่ภายใต้ขอบเขตที่ว่า ต้องเป็นทุเรียนดี ทุเรียนแก่ ไม่อ่อน ซึ่งได้พยายามสร้างการเรียนรู้ให้กับเกษตรกรว่า ต้องผลิตสินค้าในเชิงคุณภาพ อย่าผลิตสินค้าในเชิงปริมาณ ไปแข่งเรื่องราคาตํ่า นอกจาก อ.ต.ก. จะติดป้ายแล้ว จะนำสินค้าขึ้น แอปพลิเคชัน “ปลูกเอง ขายเอง”

จากทุเรียนกิโลกรัมละ 5 พัน สู่ปั้นแบรนด์ อ.ต.ก. ขายทั่วโลก

       ปัจจุบัน อ.ต.ก.มีสินค้าที่มีมาตรฐานกว่า 2,000 รายการ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเร็วๆ นี้ อ.ต.ก. จะนำมาตรฐานเข้าไปดูแลถึงสวนของเกษตรกร โดยประเดิมแห่งแรกที่ “สวนมะพร้าวนํ้าหอม” จังหวัดราชบุรี อ.ต.ก.จะทำป้ายรับรองมาตรฐานให้ภายในเดือนนี้ และที่ “สวนลำไย” จังหวัดลำพูน ในลำดับต่อไป เรียกว่าต่อจากนี้สินค้าที่ซื้อ-ขาย ผ่านแอปพลิเคชัน อ.ต.ก.ทุกรายการที่จำหน่าย จะต้องได้มาตรฐานของ อ.ต.ก.ก่อน ขั้นตอนต่อไปจึงนำสินค้ามาซื้อ-ขาย ผ่านแอปพลิเคชัน ผู้บริโภคก็จะได้สินค้าที่มีคุณภาพเหมือนได้มาที่ตลาด อ.ต.ก.  เมื่อมีการปักป้ายรับรองมาตรฐานอ.ต.ก.แล้ว  ไม่ว่าจะซื้อสินค้าที่ไหน คุณภาพไม่ได้ตามที่ต้องการก็สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ที่ อ.ต.ก. ทันที 

          นอกจากนี้ อ.ต.ก. ยังมีแอปพลิเคชัน “ปลูกเอง ขายเอง” เป็นพื้นที่ซื้อขายออนไลน์ทั้งระบบ Android และ IOS เป็นแอปพลิเคชันที่เชื่อมโยงเกษตรกรและผู้บริโภคเข้าหากัน โดยภายในแอปพลิเคชันจะมีการแบ่งระบบในส่วนของผู้ซื้อ และเกษตรกรผู้ขาย มีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการซื้อ-ขาย ที่ทันสมัย มีระบบอี-คอมเมิร์ซ ที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชันเข้ากับระบบการจ่ายเงินออนไลน์ ทั้งยังสามารถบอกความคืบหน้าของสินค้าผ่านรูปภาพ พร้อมเล่าเรื่องราวความคืบหน้าของสินค้าให้ลูกค้าทราบเป็นระยะๆ จนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ลูกค้าสามารถติดตามดูสินค้าตนเองที่ได้เลือกซื้อไว้จากเกษตรกรได้ 

จากทุเรียนกิโลกรัมละ 5 พัน สู่ปั้นแบรนด์ อ.ต.ก. ขายทั่วโลก

        ทั้งนี้คุณสมบัติของเกษตรกร จะต้องเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ หรือเกษตรคุณภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ หรือได้รับมาตรฐานการรับรองจากสถาบันแห่งประเทศไทย หรือสถาบันนานาชาติที่เป็นที่น่าเชื่อถือในปัจจุบันอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่สำคัญต้องมีความพร้อมที่จะจำหน่ายให้ผู้ซื้อแบบจองผลผลิตล่วงหน้าหรือพร้อมจำหน่ายทันที

       นายกมลวิศว์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อ.ต.ก.ยังมีสินค้าเกษตรคุณภาพระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ Best Of Ortorkor แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ สินค้าคัดสรรของดีของเด่นตลาด อ.ต.ก.โดยคัดเลือกสินค้าคุณภาพพรีเมียมที่วางจำหน่ายอยู่แล้วมาโปรโมทขยายตลาด ได้แก่ มะม่วง, ทุเรียนสด, ทุเรียนอบกรอบ, นํ้าผึ้งป่าเดือนห้าอินทรีย์, เห็ดแครงอินทรีย์, มะพร้าว, ฝรั่ง และชมพู่ ปลอดภัยจากสารเคมี เป็นต้น 

      กลุ่มที่ 2 เป็นสินค้าเกษตรแปรรูป เน้นการสร้างตลาดใหม่ให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีศักยภาพก้าวไกลสู่ระดับสากล ได้แก่ ทุเรียนอัดเม็ดเสริมแคลเซียม, ข้าวหอมยั่งยืน, ข้าวเขียวนํ้านมอินทรีย์, หมอนยางพารา, เห็ดแครงอบแห้ง และนมเห็ดแครงอัดเม็ด เป็นต้น โดยสินค้ามีวางจำหน่ายแล้วที่ตลาด อ.ต.ก. ย่านถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร และสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ www.ortorkor.com  

 

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,472 วันที่ 23 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

จากทุเรียนกิโลกรัมละ 5 พัน สู่ปั้นแบรนด์ อ.ต.ก. ขายทั่วโลก