ยูนิลีเวอร์ฯ เปิดแผน รับดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ส่ง 2 แบรนด์ใหม่รับเทรนด์รักษ์โลก

01 มิ.ย. 2562 | 04:15 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มิ.ย. 2562 | 11:43 น.

        ยูนิลีเวอร์ มั่นใจเป็นปีที่ดีของธุรกิจในไทย เดินหน้าเปิดแผนงานรับกระแสดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม พร้อมส่งสินค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ นำร่อง 2 แบรนด์ใหม่ “เลิฟบิวตี้แอนด์แพลนเน็ต”ในกลุ่มเพอซันนัลแคร์ และ “เซเว่น เจเนอเรชั่น” ในกลุ่มโฮมแคร์ ก่อนเดินหน้าสานต่อการเติบโตแบบยั่งยืนสู่บริษัทรักษ์โลก

โรเบิร์ต แคนเดลิโน

        นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ประเทศไทย และมาเลเซีย สิงคโปร์ เมียนมา ลาว กัมพูชา เปิดเผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งในการเป็นประธานกรรมการบริหารกลุ่มยูนิลีเวอร์ ทั้ง 6 ประเทศเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มองว่าตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ในแต่ละประเทศยังมีอัตราการเติบโตที่ดี แต่จะแตกต่างกันออกไปตามพฤติกรรมและความต้องการของแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ โดยในส่วนของประเทศไทยปีนี้มองว่าเป็นปีที่ดีมากปีหนึ่งของธุรกิจ โดยจะมีการขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าเพื่อให้ครอบ คลุมตลาดมากยิ่งขึ้นและสร้างความตื่นเต้นให้กับธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ความเชื่อมั่นในพื้นฐาน 3 ประการ ที่ทั้งในส่วนของแบรนด์ที่มีวัตถุประสงค์จะเติบโต บุคลากรที่มีเป้าหมายจะเติบโต และบริษัทที่มีเป้าหมายจะอยู่ได้ยาวนาน เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเข้าสู่ยุคดิจิทัล ส่งผลให้ผู้บริโภคมองหาสินค้าที่สามารถสอดรับกับไลฟ์สไตล์และดีต่อสุขภาพ

ยูนิลีเวอร์ฯ เปิดแผน รับดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ส่ง 2 แบรนด์ใหม่รับเทรนด์รักษ์โลก

        สำหรับยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินงานในประเทศไทยปีนี้จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าเพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอของสินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในการตอบโจทย์ความต้องการอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเรื่องของเทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง นอกจากนี้ยังได้ก่อตั้งศูนย์เศรษฐกิจดิจิทัลขึ้นในไทย เพื่อ ใช้อบรมทักษะพนักงานรับเทรนด์ ดิจิทัล ดิสรัปชัน เพื่อให้การทำงานรวดเร็วและสามารถตอบโจทย์ความต้องการยุคใหม่ได้ และเปิดโครงการ “ร้านติดดาว” ช่วยร้านขายของชำเติบโตอย่างยั่งยืน และ “ไอ แอม วอลล์” ฉลองครบรอบ 30 ปี รถเข็นไอศกรีมวอลล์ ซึ่งแคมเปญนี้ถูกนำไปสานต่อไปยังกลุ่มยูนิลีเวอร์ทั่วโลก  การนำเสนอสินค้าเพื่อสุขภาพที่มีปริมาณเกลือและนํ้าตาลลดลง พร้อมทั้งมีแคลอรีลดลง เช่น แบรนด์คนอร์ ที่มีปริมาณเกลือลดลงกว่า 26-28% พร้อมทั้งส่งเสริมนโยบายและสร้างจิตสำนึกในการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถรีไซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่ และย่อยสลายได้ โดยได้เริ่มนำวัสดุแบบ PCR 100% เข้ามาใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ของสินค้าแทนที่วัสดุแบบ PET  และวางเป้าหมายจะลดการใช้พลาสติกได้ 100% ในปี 2568 

           “เราได้เริ่มโครงการรักษ์โลกด้วยการใช้พลาสติกรีไซเคิลในกลุ่มสินค้าที่ขายดีอย่างซันไลต์และแบรนด์นํ้ายาปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ท ที่มียอดขายปีละกว่า 100 ล้านขวดต่อแบรนด์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเราจริงจังและเริ่มต้นโครงการดังกล่าวจากกลุ่มสินค้าที่ขายดีก่อน”

ยูนิลีเวอร์ฯ เปิดแผน รับดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ส่ง 2 แบรนด์ใหม่รับเทรนด์รักษ์โลก

         พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่อย่าง “เลิฟ บิวตี้ แอนด์แพลนเน็ต” แบรนด์สินค้าในกลุ่มเพอเซอนอลแคร์ ซึ่งเป็นการวางตลาดพร้อมกันทั่วโลก ประกอบไปด้วย แชมพู ครีมนวด โลชั่นและครีมอาบนํ้า และแบรนด์ “เซเว่น เจเนอเรชั่น” ซึ่งเป็นรูปแบบของการซื้อแบรนด์มาทำตลาดเอง และเป็นสินค้าในกลุ่มโฮมแคร์หรือของใช้ภายในบ้าน ประกอบด้วย นํ้ายาล้างจาน นํ้ายาซักผ้า สเปรย์ทำความสะอาด เป็นต้น โดยไทยถือเป็นการวางจำหน่ายเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากนิวซีแลนด์ โดยนำร่องวางจำหน่ายในช่องทาง ท็อปส์ ก่อนที่จะขยายไปยังช่องทางอื่นๆในอนาคต 

ยูนิลีเวอร์ฯ เปิดแผน รับดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ส่ง 2 แบรนด์ใหม่รับเทรนด์รักษ์โลก

           “การที่เราเลือกวางจำหน่ายสินค้าแบรนด์เซเว่น เจเนอเรชั่น ในประเทศไทยเป็นลำดับแรกในอาเซียนเนื่องจากมองว่าประเทศ ไทยถือว่าเป็นประเทศที่เป็นผู้นำเทรนด์ในหลายๆด้านและผู้บริโภคมีรสนิยมที่หลากหลายทั้งในเรื่องเทรนด์ สังคม วัฒนธรรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของสินค้า” 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3475 วันที่ 2 - 5 มิถุนายน 2562

ยูนิลีเวอร์ฯ เปิดแผน รับดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม ส่ง 2 แบรนด์ใหม่รับเทรนด์รักษ์โลก