Play
สร้างแบรนด์ ‘นิด้า รูมส์’ รุกโมเดลรร.เวอร์ชวลในไทย
โกลบอล รูม นำโมเดลธุรกิจใหม่ "โรงแรมเวอร์ชวล" รุกเปิดตลาดในไทย ดึง 1.3 พันโรงแรมระดับ 1-3 ดาวร่วมพันธมิตร ทำสัญญากันห้องพักที่ยังไม่ได้ขาย โรงแรมละ 5 ห้อง นำมาบริหารและขายผ่านแบรนด์ "นิด้า รูมส์" ชี้ในไทยมีห้องพักพร้อมขายสิ้นเดือนเมษายนนี้แล้วกว่า 2.3 ล้านห้องต่อปี ทั้งเดินหน้าเปิดธุรกิจในอีกหลายประเทศในอาเซียน ก้าวสู่เชนโรงแรมเวอร์ชวลใหญ่สุดในเซ้าท์อีสเอเชีย
นายอรรถกวี (เอ็ดดี้) ชูแสง ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัทโกลบอล รูม จำกัด ประเทศไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการเติบโตของสังคมเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการนำโมเดลใหม่ทางธุรกิจ ที่เรียกว่า "โรงแรมเวอร์ชวล (เสมือนจริง)" ภายใต้แบรนด์ "นิด้า รูมส์ (Nida Rooms) ซึ่งเป็นแบรนด์จากประเทศมาเลเซีย ที่เพิ่งจัดตั้งมาเพียง 6 เดือน เข้ามาเปิดตลาดธุรกิจโรงแรมในไทย พร้อมเปิดให้บริการภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
คอนเซ็ปต์ในการดำเนินธุรกิจโรงแรมเวอร์ชวล จะเป็นเหมือนตัวแทนในการดึงห้องพักในส่วนที่ไม่เต็มของโรงแรมต่างๆ ในระดับ 1-3 ดาวบางส่วน เพื่อมาบริหารและขายห้องพักให้ ภายใต้แบรนด์ของธุรกิจโรงแรมเวอร์ชวลนั้นๆ จะมีทั้งการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ หรือ OTA และการขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง รวมถึงแอพพลิเคชันการจองที่ถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้แบรนด์นั้นๆ ก็คล้ายๆ กับ "แกร็บ แท็กซี่" หรือ Uber เพียงแต่โปรดักต์ของโรงแรมเวอร์ชวล จะเป็นที่พักของโรงแรมต่างๆ
"ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจโรงแรมเวอร์ชวล เบอร์หนึ่งเป็นแบรนด์ OYO Rooms ของประเทศอินเดีย ที่มีการพัฒนามากว่า 3 ปีแล้ว นอกนั้นก็มี แบรนด์ Zen Rooms (ของประเทศอินโดนีเซีย) และแบรนด์ Nida Rooms ที่นอกจากเริ่มต้นในมาเลเซีย ก็มีการขยายแบรนด์ไปยังอินโดนีเซียแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขยายธุรกิจในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ทั้ง ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เพื่อให้แบรนด์ นิด้า รูมส์ เป็นเชนโรงแรมเวอร์ชวลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแม้ นิด้า รูมส์ จะเพิ่งเปิดตัวราวครึ่งปี แต่มีเครือข่ายโรงแรมมากกว่า 3 พันแห่ง รวมจำนวนห้องพักกว่า 5.4 ล้านห้องต่อปี"
นายอรรถกวี กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจของนิด้า รูมส์ในไทยนั้น บริษัทจะมีการติดต่อโรงแรมในระดับ 3 ดาวลงมา เป็นผู้ประกอบการรายเล็กที่บริหารธุรกิจโรงแรมเองในไทย มีห้องพักระหว่าง 10-100 ห้อง เพื่อทำสัญญาในการให้ราคาส่วนลดพิเศษแก่ นิด้า รูมส์ เพื่อบริหารและขายให้ ภายใต้แบรนด์นิด้า รูมส์ โดยในแต่ละโรงแรมจะรับห้องพักมาอย่างน้อย 5 ห้อง ซึ่งทางนิด้า รูมส์ จะมีการบริหารราคาขายที่จูงใจ ในแบบเดียวกับการนำเสนอราคาของสายการบินต้นทุนต่ำ เนื่องจาก นาย คเนศศรันย์ อาวิลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารนิด้า รูมส์ เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของแอร์เอเชียมาก่อน
ทั้งนี้โมเดลในการดำเนินธุรกิจนี้ ถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันทั้งนิด้า รูมส์ และโรงแรมพันธมิตร เพราะเป็นนำห้องพักที่ไม่เต็มของโรงแรมมาเข้าร่วม ซึ่งโรงแรมก็จะมีรายได้จากการขายห้องพัก รวมถึงการช่วยโปรโมตโรงแรมให้ โดยที่โรงแรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือต้องมาจ่ายค่าคอมมิชชั่น เหมือนการนำห้องพักไปขายผ่าน OTA ขณะที่นิด้า รูมส์ ก็จะมีห้องพักในการบริหารและขายให้กับลูกค้า โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปสร้างโรงแรมเอง หรือมีโรงแรมของตัวเองจริงๆ ซึ่งการขายของนิด้า รูมส์ จะมีทั้งการขายผ่านช่องทาง OTA อาทิ อโกด้า, บุกกิ้ง ดอทคอม, ซีทริปของจีน (การขายผ่านช่องทางนี้ก็ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ OTA) การขายผ่าน www.nidarooms.com และแอพพลิเคชัน nidarooms ที่ในขณะนี้เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน IOS และแอนดรอยแล้ว ซึ่งการขายหลากหลายช่องทาง จะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
ขณะนี้นิด้า รูมส์ ในไทย มีพันธมิตรโรงแรมแล้วกว่า 1,300 แห่ง มีห้องพักพร้อมให้บริการกว่า 2.3 ล้านห้องต่อปี ซึ่งทุกโรงแรมจะอยู่ในทำเลสำคัญของเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต สมุย กระบี่ พัทยา ระยอง กรุงเทพ อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย มหาสารคาม หาดใหญ่ สงขลา หัวหิน พิษณุโลก และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีทีมกว่า 50 คนในการลงพื้นที่เพื่อหาโรงแรมพันธมิตร ซึ่งลูกค้ามองไว้ว่าเป็นคนไทย 60% ต่างชาติ 40%
โดยห้องพักภายใต้แบรนด์ของนิด้า รูมส์ จะเป็นไปตามมาตรฐานที่ทางแบรนด์ได้วางไว้ ที่ต้องมีคุณสมบัติของห้องพักในการตรวจสอบมากถึง 120 จุด จึงจะผ่านมาตรฐาน ไม่ได้เลือกรับทุกโรงแรม เพราะมองว่าการสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งโรงแรมที่เป็นพันธมิตรของนิด้า รูมส์ นอกจากป้ายชื่อของโรงแรมต่างๆแล้ว ใกล้ๆ กันก็จะมีการติดตั้งป้ายแบรนด์นิด้า รูมส์ ด้านนอกอาคาร แบบถาวร เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็น และภายในห้องก็จะติดตั้งป้ายแบรนด์นิด้า รูมส์ ซึ่งลูกค้าที่จะเข้าพักที่นิด้า รูมส์ ไม่ได้เลือกที่ชื่อของโรงแรมนั้นๆ แต่เลือกเพราะแบรนด์ โดยลูกค้าเลือกจองห้องพักที่นิด้า รูมส์ ขาย โดยเลือกจากทำเลที่ดี ราคาที่ดีและมีคุณภาพตามมาตรฐาน เมื่อจองเสร็จ จึงจะทราบว่าที่พักอยู่ที่จุดใดหรือโรงแรมใด เพราะทางบริษัทจะมีไดเร็กชันในการเดินทางให้
อย่างไรก็ตามโมเดลธุรกิจนี้อาจจะยังเป็นเรื่องใหม่และแตกต่างจากที่วงการธุรกิจโรงแรมไทยในปัจจุบันดำเนินการอยู่ แต่หลังการเปิดตัวการให้บริการของนิด้า รูมส์ในไทย และการสร้างแบรนด์จนติดตลาด ก็มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดี และในอนาคตก็มองว่านอกจากการขายห้องพักแล้ว ก็สามารถต่อยอดขายอย่างอื่น เพื่อทำให้โรงแรมพันธมิตรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559
นายอรรถกวี (เอ็ดดี้) ชูแสง ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัทโกลบอล รูม จำกัด ประเทศไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการเติบโตของสังคมเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตเป็นอย่างมาก ทำให้บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการนำโมเดลใหม่ทางธุรกิจ ที่เรียกว่า "โรงแรมเวอร์ชวล (เสมือนจริง)" ภายใต้แบรนด์ "นิด้า รูมส์ (Nida Rooms) ซึ่งเป็นแบรนด์จากประเทศมาเลเซีย ที่เพิ่งจัดตั้งมาเพียง 6 เดือน เข้ามาเปิดตลาดธุรกิจโรงแรมในไทย พร้อมเปิดให้บริการภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
คอนเซ็ปต์ในการดำเนินธุรกิจโรงแรมเวอร์ชวล จะเป็นเหมือนตัวแทนในการดึงห้องพักในส่วนที่ไม่เต็มของโรงแรมต่างๆ ในระดับ 1-3 ดาวบางส่วน เพื่อมาบริหารและขายห้องพักให้ ภายใต้แบรนด์ของธุรกิจโรงแรมเวอร์ชวลนั้นๆ จะมีทั้งการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ หรือ OTA และการขายผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง รวมถึงแอพพลิเคชันการจองที่ถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้แบรนด์นั้นๆ ก็คล้ายๆ กับ "แกร็บ แท็กซี่" หรือ Uber เพียงแต่โปรดักต์ของโรงแรมเวอร์ชวล จะเป็นที่พักของโรงแรมต่างๆ
"ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจโรงแรมเวอร์ชวล เบอร์หนึ่งเป็นแบรนด์ OYO Rooms ของประเทศอินเดีย ที่มีการพัฒนามากว่า 3 ปีแล้ว นอกนั้นก็มี แบรนด์ Zen Rooms (ของประเทศอินโดนีเซีย) และแบรนด์ Nida Rooms ที่นอกจากเริ่มต้นในมาเลเซีย ก็มีการขยายแบรนด์ไปยังอินโดนีเซียแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขยายธุรกิจในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ทั้ง ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เพื่อให้แบรนด์ นิด้า รูมส์ เป็นเชนโรงแรมเวอร์ชวลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแม้ นิด้า รูมส์ จะเพิ่งเปิดตัวราวครึ่งปี แต่มีเครือข่ายโรงแรมมากกว่า 3 พันแห่ง รวมจำนวนห้องพักกว่า 5.4 ล้านห้องต่อปี"
นายอรรถกวี กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินธุรกิจของนิด้า รูมส์ในไทยนั้น บริษัทจะมีการติดต่อโรงแรมในระดับ 3 ดาวลงมา เป็นผู้ประกอบการรายเล็กที่บริหารธุรกิจโรงแรมเองในไทย มีห้องพักระหว่าง 10-100 ห้อง เพื่อทำสัญญาในการให้ราคาส่วนลดพิเศษแก่ นิด้า รูมส์ เพื่อบริหารและขายให้ ภายใต้แบรนด์นิด้า รูมส์ โดยในแต่ละโรงแรมจะรับห้องพักมาอย่างน้อย 5 ห้อง ซึ่งทางนิด้า รูมส์ จะมีการบริหารราคาขายที่จูงใจ ในแบบเดียวกับการนำเสนอราคาของสายการบินต้นทุนต่ำ เนื่องจาก นาย คเนศศรันย์ อาวิลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารนิด้า รูมส์ เคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของแอร์เอเชียมาก่อน
ทั้งนี้โมเดลในการดำเนินธุรกิจนี้ ถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันทั้งนิด้า รูมส์ และโรงแรมพันธมิตร เพราะเป็นนำห้องพักที่ไม่เต็มของโรงแรมมาเข้าร่วม ซึ่งโรงแรมก็จะมีรายได้จากการขายห้องพัก รวมถึงการช่วยโปรโมตโรงแรมให้ โดยที่โรงแรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือต้องมาจ่ายค่าคอมมิชชั่น เหมือนการนำห้องพักไปขายผ่าน OTA ขณะที่นิด้า รูมส์ ก็จะมีห้องพักในการบริหารและขายให้กับลูกค้า โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปสร้างโรงแรมเอง หรือมีโรงแรมของตัวเองจริงๆ ซึ่งการขายของนิด้า รูมส์ จะมีทั้งการขายผ่านช่องทาง OTA อาทิ อโกด้า, บุกกิ้ง ดอทคอม, ซีทริปของจีน (การขายผ่านช่องทางนี้ก็ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ OTA) การขายผ่าน www.nidarooms.com และแอพพลิเคชัน nidarooms ที่ในขณะนี้เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน IOS และแอนดรอยแล้ว ซึ่งการขายหลากหลายช่องทาง จะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
ขณะนี้นิด้า รูมส์ ในไทย มีพันธมิตรโรงแรมแล้วกว่า 1,300 แห่ง มีห้องพักพร้อมให้บริการกว่า 2.3 ล้านห้องต่อปี ซึ่งทุกโรงแรมจะอยู่ในทำเลสำคัญของเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต สมุย กระบี่ พัทยา ระยอง กรุงเทพ อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย มหาสารคาม หาดใหญ่ สงขลา หัวหิน พิษณุโลก และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีทีมกว่า 50 คนในการลงพื้นที่เพื่อหาโรงแรมพันธมิตร ซึ่งลูกค้ามองไว้ว่าเป็นคนไทย 60% ต่างชาติ 40%
โดยห้องพักภายใต้แบรนด์ของนิด้า รูมส์ จะเป็นไปตามมาตรฐานที่ทางแบรนด์ได้วางไว้ ที่ต้องมีคุณสมบัติของห้องพักในการตรวจสอบมากถึง 120 จุด จึงจะผ่านมาตรฐาน ไม่ได้เลือกรับทุกโรงแรม เพราะมองว่าการสร้างแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งโรงแรมที่เป็นพันธมิตรของนิด้า รูมส์ นอกจากป้ายชื่อของโรงแรมต่างๆแล้ว ใกล้ๆ กันก็จะมีการติดตั้งป้ายแบรนด์นิด้า รูมส์ ด้านนอกอาคาร แบบถาวร เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็น และภายในห้องก็จะติดตั้งป้ายแบรนด์นิด้า รูมส์ ซึ่งลูกค้าที่จะเข้าพักที่นิด้า รูมส์ ไม่ได้เลือกที่ชื่อของโรงแรมนั้นๆ แต่เลือกเพราะแบรนด์ โดยลูกค้าเลือกจองห้องพักที่นิด้า รูมส์ ขาย โดยเลือกจากทำเลที่ดี ราคาที่ดีและมีคุณภาพตามมาตรฐาน เมื่อจองเสร็จ จึงจะทราบว่าที่พักอยู่ที่จุดใดหรือโรงแรมใด เพราะทางบริษัทจะมีไดเร็กชันในการเดินทางให้
อย่างไรก็ตามโมเดลธุรกิจนี้อาจจะยังเป็นเรื่องใหม่และแตกต่างจากที่วงการธุรกิจโรงแรมไทยในปัจจุบันดำเนินการอยู่ แต่หลังการเปิดตัวการให้บริการของนิด้า รูมส์ในไทย และการสร้างแบรนด์จนติดตลาด ก็มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ดี และในอนาคตก็มองว่านอกจากการขายห้องพักแล้ว ก็สามารถต่อยอดขายอย่างอื่น เพื่อทำให้โรงแรมพันธมิตรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,143 วันที่ 25 - 30 มีนาคม พ.ศ. 2559