ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเห็นพ้องมองตลาดผู้สูงอายุกำลังเติบโต เข็นผลิตภัณฑ์และบริการออกมาตอบโจทย์ดิวาลีเซ็นเตอร์เล็งลุยเจาะตลาดทัวร์อินเดีย ญี่ปุ่น และจีน แบรนด์ฮูเร่ เตรียมนำเสนอนมโปรตีนแคลเซี่ยมสูงตอบสนองความต้องการ ขณะที่บริษัทถั่งเช่าฟาร์มฯ ใช้หลักอาหารเป็นยาเข้าทำตลาด
ประเทศไทยเข้าใกล้การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบในอีก 1-2 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าในปี 2563 จะมีผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี ราว 13 ล้านคน และในปี 2573 จะมีผู้สูงอายุเกินกว่า 18 ล้านคน หรือ 27% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ทั่วโลกโดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา และประเทศในกลุ่มนอร์ดิก เช่น ไอซ์แลนด์ และฟินแลนด์ เป็นต้น
ล่าสุดนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งพัฒนาธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศให้มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล พร้อมหาวิธีสร้างแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจเข้ามาลงทุนในธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุ นอกจากนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีของไทยในการสร้างรายได้เข้าประเทศจากธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ที่ชาวต่างชาติมักจะเดินทางเข้ามาใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในประเทศ ไทย เนื่องจากไทยมีความพร้อมและมีความได้เปรียบหลายด้าน
ต่อเรื่องดังกล่าวนางสาวกิติมา หัตถีรัตน์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ดิวาลี เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์บริการดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงวัยแบบครบวงจร (Holistic Health Care Center) ภายใต้ชื่อ “ดิวาลี เซ็นเตอร์” (Diwali Center) กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตนมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุ จึงมีความคิดในการก่อตั้งศูนย์ดิวาลีขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศรองรับ โดยมุ่งเน้นไปที่การดูแลเชิงป้องกันและการจัดการด้านโภชนาการ ซึ่งศูนย์จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูโดยตรง นักกายภาพ นักโภชนาการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลที่มากประสบการณ์ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ที่เข้ามาใช้บริการทั้งที่เป็นคนไทย ซึ่งจะเป็นผู้สูงอายุ และผู้ที่รักการดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเป็นกรุ๊ปทัวร์เพื่อเข้ามาใช้บริการ เช่น ประเทศญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ศูนย์กำลังทำการตลาดเพิ่มเติมในส่วนของตลาดต่างประเทศ เพื่อต่อยอดตลาดผู้ใช้บริการในประเทศอินเดีย และจีน โดยทำการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยภาษาของแต่ละประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ต้องการใช้บริการได้รับรู้และรู้จักดิวาลี เซ็นเตอร์มากขึ้น
“ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการรอเซ็นสัญญากับบริษัททัวร์จากญี่ปุ่น และอินเดีย ขณะที่จีน ตนและทีมงานจะเดินทางไปเจรจาธุรกิจในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อหาข้อสรุปที่เหมาะสมที่สุด”
สำหรับบริการของ “ดิวาลี เซ็นเตอร์” ประกอบด้วย การตรวจหาภูมิแพ้ในร่างกาย ทั้งแบบเฉียบพลัน และการแพ้แบบเรื้อรัง หรือ แบบแฝง จำนวน 222 ชนิด, การจัดโภชนาการที่เหมาะสมรายบุคคล, การตรวจประเมินร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาทิ การประเมินโครงร่างกระดูก กล้ามเนื้อ การทรงตัว และให้การรักษาทางกายภาพบำบัด การออกกำลังกายในนํ้า (Hydro Therapy) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อเพื่อป้องกันข้อเสื่อม เป็นต้น
สอดคล้องกับความคิดเห็นของนางสาวชัชณี พฤกษ์ศลานันท์ ผู้จัดการสายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ครอสแม็กซ์ รีเทล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนมสดพาสเจอไรซ์โปรตีนสูงแบรนด์ “ฮูเร่” (Hooray) ซึ่งระบุว่า ตลาดผู้สูงอายุมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะต่างประเทศ ซึ่งตลาดดังกล่าวนี้จะมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน สามารถเข้าทำตลาดได้โดยตรง อีกทั้งในปัจจุบันกลุ่มผู้สูงอายุเองก็หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น
ขณะนี้แบรนด์อยู่ระหว่างขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อนำมาตอบโจทย์ตลาดผู้สูงอายุ โดยคาดว่าน่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายได้ในปี 2563 เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก จึงต้องมีการปรับสูตรกันหลายรอบ แม้ว่าในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จะเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เพราะมีโปรตีนสูงและไม่มีการผสมนํ้าตาล แต่จากข้อมูลจะพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องของการดื่มนมวัว ซึ่งจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ดังนั้น แบรนด์จึงอาจจะใช้นมจากอัลมอนด์มาพัฒนาให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ โดยจะต้องมีโปรตีน และแคลเซียมในปริมาณสูงตามที่ร่างกายต้องการ
นางสาวเสมอขวัญ ตะพังพินิจการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถั่งเช่าฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าชนิดแคปซูลและชนิดนํ้าแบรนด์ “ถั่งเช่าฟาร์ม” กล่าวว่าตลาดผู้สูงอายุเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับที่ต่างประเทศซึ่งมีหลายประเทศที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าดังกล่าวโดยตรง ในการฟื้นฟูร่างกายและช่วยเพิ่มสมรรถภาพ
“ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์จะขายดีมากในโรงพยาบาลสำหรับกลุ่มของผู้สูงอายุ โดยเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้อาหารเป็นยา เพื่อทำให้ร่างกายไม่เกิดอาการเจ็บป่วย และมีชีวิตที่ดีขึ้น”
หน้า 8 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3506 วันที่ 19-21 กันยายน 2562