จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เผยว่า บริษัทฯ ได้จัดตั้ง บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล คอนเทนต์ (สิงคโปร์) จำกัด ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วยทุนจดทะเบียนไม่เกิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณไม่เกิน 350 ล้านบาท โดย JKN ถือหุ้น 100% เพื่อรองรับแผนรุกขยายตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดโลก ซึ่งประเทศสิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางการค้าลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคนี้ ดังนั้นการจัดตั้งบริษัทย่อยในครั้งนี้ จะทำให้ JKN มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการซื้อและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ตลาดต่างประเทศมากขึ้นด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของ JKN โดยเอ็กซิมแบงก์ จะช่วยตรวจสอบมาตรฐานทางการเงินของคู่ค้าด้านการชำระเงินก่อนมีการซื้อขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ พร้อมรับประกันความเสี่ยงแทน JKN หากคู่ค้าเกิดการผิดนัดชำระ ซึ่งปัจจุบัน เอ็กซิมแบงก์ ได้ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างทำสัญญาประกันการชำระหนี้ที่เกิดจากการทำธุรกรรมในต่างประเทศจำนวน 4 ราย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ และที่เหลืออีก 2 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบในการรับทําประกันและรับชําระหนี้ คาดว่าจะทำประกันสัญญาชำระหนี้แล้วเสร็จภายในไม่เกินไตรมาส 2/63 นี้
ล่าสุด จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 ผู้ถือหุ้นได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ในการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 8 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นจำนวน 67.5 ล้านหุ้น และจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอีกในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้นประมาณ 0.2025 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นและเงินสดในวันที่ 29 เมษายน 2563 พร้อมอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนรวม 104.8 ล้านหุ้น ในราคาพาร์ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 52.4 ล้านบาท รองรับการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้น การปรับสิทธิของหุ้นกู้แปลงสภาพ และการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ JKN-W1 ในครั้งนี้ สอดรับแผนการย้ายการซื้อขายหลักทรัพย์ JKN ไปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯยังมีมติอนุมัติการขยายวงเงินการออกและการเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มอีกจำนวน 1,000 ล้านบาท จากเดิมวงเงินเดิมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินใหม่ทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท รองรับการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้จำนวน 900 ล้านบาท และหากภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้อต่อการออกหุ้นกู้ บริษัทฯ จะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการที่มีเพียงพอและวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่จากสถาบันการเงิน เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้แทน ซึ่งไม่กระทบต่อแผนงานดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด