การปิดประเทศของมาเลเซียเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยช่วงแรกเป็นไปอย่างเข้มข้น ห้ามสัญจรข้ามพรมแดนทั้งประชาชนและสินค้า ทำให้พ่อค้าชายแดนกระทบหนัก และต้องหาทางออกทดแทน ระหว่างรอการตอบรับของทางการมาเลเซียจากคำร้องขอผ่านรัฐบาลไทย ให้ผ่อนคลายการขนส่งสินค้าทางถนนและรถไฟเพิ่มขึ้น อีกทางเลือกคือเปลี่ยนไปส่งออกหรือนำเข้าผ่านท่าเรือน้ำลึกสงขลาแทน ทำให้ภาพรวมการขนถ่ายสินค้าผ่านท่าเรือสงขลายังคงเติบโตได้ สวนทางภาพรวมการค้าระหว่างประเทศที่ชะลอตัว
นายวัฒนชัย เรืองเลิศปัญญากุลผู้อำนวยการท่าเรือน้ำลึกสงขลา บริหารงานโดย บริษัทเจ้าพระยาท่าเรือสากล จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โดยภาพรวมมูลค่าการค้าในการส่งออกสินค้าและนำเข้าสินค้า ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19ผ่านท่าเรือน้ำลึกสงขลา ถือว่าแทบจะไม่ได้รับผลกระทบ สำหรับสินค้าบรรจุตู้คอนเทนเนอร์อาจจะลดลงไปนิดนึง แต่สำหรับสินค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น เมื่อหักลบกลบกันด้วยตัวเลขแล้ว ผลลัพธ์ออกมาสุดท้ายไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น
โดยสินค้าที่การส่งออกลดลง ได้แก่ สินค้าประเภทอาหารทะเลแช่แข็ง ซึ่งลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นคือ สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ ที่โดดเด่นมากที่สุดสำหรับสินค้าส่งออกที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ก็คือถุงมือยาง พบว่ามีการส่งออกมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับการนำเข้าสารน้ำยางสังเคราะห์ ที่มีการนำเข้าเพิ่มขึ้นเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงมือยาง
นอกจากนี้ก็ยังมีการส่งออกน้ำยางที่มียอดเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการส่งออกสินค้าไม้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน เนื่องมาจากประเทศมาเลเซียมีการปิดประเทศ ปิดพรมแดน ทำให้การส่งสินค้าออกไม้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง ที่เคยส่งออกผ่านทางท่าเรือปีนัง ประเทศมาเลเซีย มีปัญหา ผู้ประกอบการจึงเปลี่ยนมาส่งออกผ่านทางท่าเรือสงขลาแทนมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มการนำเข้าและส่งออกสินค้าผ่านท่าเรือน้ำลึกสงขลาในปีนี้นั้น ผู้อำนวยการท่าเรือน้ำลึกสงขลา กล่าวว่า จากการประเมินว่าสินค้าที่ส่งออกและนำเข้าผ่านท่าเรือน้ำลึกสงขลานั้น สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทวัตถุดิบและสินค้าแปรรูป ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งสินค้าเหล่านี้ยังมีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ฉะนั้น จึงไม่น่าจะมีผลกระทบในปีนี้ หรือถ้าหากจะมีผลกระทบบ้างก็ไม่มากนัก
หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,578 วันที่ 28 - 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2563