ถือเป็นพันธกิจที่ต้องเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนมา หลังจากต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 ที่ชัตดาวน์ทำให้ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก หนึ่งในแนวทางการปลุกกำลังซื้อของคนรุ่นใหม่ คือการดึงเพจคอมมูนิตี้ของกลุ่มสถาบันการศึกษา จากโลกออนไลน์ มาสู่ออนกราวด์
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ , เซ็นทรัลพลาซา , เซ็นทรัลเฟสติวัล และเซ็นทรัลวิลเลจ เปิดเผยว่า เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไป ภายใต้กลยุทธ์หลัก “พลังไทยช่วยไทย Reunite Thailand Together” บริษัทจึงเปิดตัวโครงการ “U Market Place” กระตุ้นการซื้อขายสินค้าจากเพจคอมมูนิตี้ของคนที่มีความผูกพันกับสถาบันการศึกษาของตน มาสู่พื้นที่ ออนกราวด์
โดยโครงการ U Market Place สนับสนุนตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จากเพจของศิษย์เก่าจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ซึ่งรวมตัวกันในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ได้เข้ามาเปิดบูธแนะนำสินค้าที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยจะไม่เรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่ในเฟสแรก และกำหนดราคาค่าเช่าพิเศษในเฟสต่อๆ ไป เพื่อเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย ตามความสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วง
U Market Place มีสินค้าและอาหารจากร้านดังกว่า 270 ร้านค้า อาทิ Kanomglom ขนมเบื้องศาลาแดง และขนมโตเกียวชื่อดัง , ร้านกงชง ชานมสิงคโปร์ , ร้านXāb (อาบ) แบรนด์สุดคราฟต์จากรั้วจามจุรีกับ Organic alcohol spray และ Crafted Soap , ปูปักหมุด สินค้า Eco-friendly Bags , Herchemist แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นสุดชิค , กายาสุขะ คาเฟ่ จากHostel สุดฮิป สู่คาเฟ่อันอบอุ่นของชาวKU , อาโป้ย ARPOY แฮ่กึ๊นกุ้งจักรพรรดิ , Belka เค้กน้ำผึ้งสูตรดั้งเดิมจากรัสเซีย ฯลฯ
ทั้งนี้โครงการ U Market Place จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค. 63 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ 7 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ , เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว , เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ , เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 , เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 , เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า และ เซ็นทรัลพลาซา ศาลายา