โครงการ Future Leaders Development Program หรือโครงการเถ้าแก่ ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดของนาย ธนินท์ เจียรวนนท์ เพื่อเป็นโมเดลต้นแบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ควบคู่ไปกับช่วยเหลือยกระดับผู้ประกอบการรายย่อย ล่าสุดได้เปิดตัว “ซีพีเฟรช” (CPFresh) ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งใหม่ใจกลางเมืองปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของผู้นำรุ่นใหม่จากโครงการเถ้าแก่นี้
“เจ้าสัวธนินท์” จึงนำทัพผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมงานเปิดตัว พร้อมเชิญเหล่าผู้ประกอบการภัตตาคารร้านอาหารเขาใหญ่-ปากช่องร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์พร้อมชี้แนะกลยุทธ์ปรับตัวสู้กับโควิด-19 ณ สถาบันพัฒนาผู้นำ เครือเจริญโภคภัณฑ์
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวกับคณะผู้ประกอบการภัตตาคารร้านอาหารเขาใหญ่-ปากช่อง โดยเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของเขาใหญ่-ปากช่องจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว เนื่องจากในภาวะปกติวิถีใหม่ หรือ New Normal จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากผู้คนในวิถีใหม่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ทำงานไปพร้อมกับการท่องเที่ยวได้ ต่อไปการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
ทั้งนี้ต้องพัฒนาให้เป็นท่องเที่ยวปลอดภัย ภัตตาคารร้านอาหารต้องจำหน่ายอาหารที่สด สะอาด ปลอดภัย อร่อยอย่างเดียวจะไม่พออีกต่อไป ลูกค้าเข้ามารับประทานแล้วจะต้องไม่ติดโควิด-19 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการสร้างความปลอดภัยในภัตตาคารร้านอาหารเพื่อช่วยธุรกิจภัตตาคารร้านอาหารให้ปรับตัวสู้กับโควิด-19 รวมถึงป้องกันเชื้อโรคอื่น ๆ ได้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“นี่คือยุคใหม่ ธุรกิจยุคใหม่ต้องเปลี่ยนแปลง คิดใหม่ ภัตตาคารร้านอาหารต้องก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง โดยซีพีเฟรชจะเป็นคู่ค้าที่ดีของภัตตาคารและร้านอาหาร นอกเหนือจากการเป็นแหล่งวัตถุดิบคุณภาพดี ซีพีเฟรชพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการภัตตาคารร้านอาหารให้เติบโต โดยอาศัยองคาพยพของซีพี อาทิ CPF RD Center ซึ่งพร้อมเปิดกว้างให้เจ้าของภัตตาคารเข้ามาศึกษาเกี่ยวกับการทำอาหารสด สะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพ และทำให้สุขภาพแข็งแรง อายุยืน”
ทั้งนี้ซีพีเฟรชเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ภายใต้นิยาม “สดทุกวัน คุ้มทุกวัน” เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal ที่ต้องการอาหารสด คุณภาพดีและปลอดภัย นอกจากนี้ยังเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่สนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการภัตตาคารร้านอาหาร
“มั่นใจว่าธุรกิจท่องเที่ยวกำลังกลับมาฟื้นตัว และต่อไปการท่องเที่ยวจะเป็นการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ดังนั้นจะเป็นโอกาสของธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในแถบปากช่องและเขาใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของไทย”
ดังนั้นผู้ประกอบการภัตตาคารร้านอาหารแถบปากช่องและเขาใหญ่ เร่งปรับตัวสู้กับโควิด-19 โดยเริ่มจาก 1.ความปลอดภัยในร้านอาหาร ภัตตาคารและร้านอาหารต่าง ๆ ลงทุน ต้องวางระบบห้องอาหารในรูปแบบ Clean room สร้างระบบอากาศหมุนเวียน ใช้เครื่องกรองอากาศระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง UV ที่คอยหมุนเวียนอากาศออกให้ถ่ายเท จะทำให้ร้านอาหารและธุรกิจร้านอาหารมีความปลอดภัยจากเชื้อโรค ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้ผู้เข้ามาใช้บริการ 2.รุกสู่ดีลิเวอรี เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป การรับประทานอาหารนอกบ้านของวิถีชีวิตใหม่อาจจะลดน้อยลง
นอกจากนี้ นายธนินท์ ได้เสนอให้ภัตตาคารร้านอาหารต้องเร่งเข้าสู่ยุค 4.0 ที่สามารถขายอะไรก็ได้ โดยแนะให้ใช้กลยุทธ์ “ตัวเบา” คือ ขยายไลน์การสินค้าอื่นเพิ่มเติมจากการจำหน่ายอาหาร โดยไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์ที่หนักทั้งเงินและสร้างภาระ แต่ให้ใช้ภัตตาคารและร้านอาหารเป็นช่องทางนำสินค้าที่ลูกค้าของร้านจำเป็นต้องใช้มาจำหน่ายเพิ่มเติม เพื่อเป็นการเสริมรายได้
“ยุค 4.0 อะไรก็เกิดขึ้นได้ ขายอะไรก็ได้ อย่าจำกัดแต่การขายอาหาร ลูกค้าที่มารับประทานที่ร้านหรือภัตตาคารก็ต้องการสินค้าอื่นด้วย ต้องไปสำรวจความต้องการของลูกค้า เถ้าแก่ที่เป็นเจ้าของร้านก็สามารถแนะนำให้ลูกค้าซื้อได้ ซึ่งจะเพิ่มกำไรเข้าร้าน อย่าไปคิดว่าภัตตาคารร้านอาหารต้องขายอาหารอย่างเดียว”