“หัสดิน” ขันอาสานั่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย

20 ก.ย. 2563 | 08:35 น.

อีสานมาแรง“หัสดิน” เปิดตัวขันอาสานั่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยหากไม่ได้ก็ยังคงทำงานสมาคมต่อไป

วันที่19 กันยายน2563 นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ผู้ประกอบการโรงสีเอกวัฒนาพืชผลและเลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย ได้ร่อนหนังสือแนะนำตัวพร้อมอาสารับตำแหน่งนายกสมาคมลำดับต่อไป ถัดจากนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ ซึ่งกำลังจะหมดวาระในปีนี้  โดยมีข้อความในหนังสือดังนี้

หัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ

 

ผม“หน่อย” “หัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ” โรงสีเอกวัฒนาพืชผล จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) ขออาสารับเลือกตั้งในตำแหน่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยปีบริหาร 2564- 2565 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมได้ร่วมงานกับสมาคมฯ ตั้งแต่เมื่อช่วงปี2542 – 2543 โดยท่านนายก "บำรุง กฤชภากรณ์" ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกสมาคมโรงสีในสมัยนั้นได้ให้ผมไปบรรยายแทนท่านที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นการทำงานในนามของสมาคมฯ เป็นครั้งแรก และหลังจากนั้นผมก็ได้เข้ามาเป็นกรรมการของสมาคมฯ สมัยท่านนายก "ปราโมทย์ วานิชานนท์" เมื่อปี2544 - 2547 เป็นกรรมการฝ่ายต่างประเทศในสมัยท่านนายก "วัฒนา รัตนวงศ์" ปี2548 - 2551 

 

ในสมัยท่านนายก "ชาญชัย รักษ์ธนานนท์" ปี2552 - 2555 ผมก็ยังคงเป็นกรรมการฝ่ายต่างประเทศและเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดตั้งสมาพันธ์โรงสีข้าวอาเซียน เมื่อปี2555 เป็นหนึ่งในผู้ร่างปฏิญญากรุงเทพฯและได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชาเพื่อจัดตั้งสมาพันธ์โรงสีอาเซียน โดยในเดือนสิงหาคมปี 2555 เป็นผู้ร่วมจัดตั้งRice Trade Zone เขตพิเศษการค้าข้าวอาเซียน แม้ระยะเวลาต่อมารัฐบาลเปลี่ยนก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่องนี้ด้วยในสมัยท่านนายก "มนัส กิจประเสริฐ" ในปี2556 - 2559 

 

“ผมก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการฝ่ายต่างประเทศและเป็นผู้หนึ่งในการเดินทางไปประเทศเมียนมาและมีส่วนในการร่าง “ปฏิญญา Yangon” และเมื่อท่านนายก "เกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์"  เป็นนายกสมาคมฯในปี2560 - 2563 ผมได้รับตำแหน่งเป็นเลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ร่วมงานกับสมาคมฯผมได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการฯ, อนุกรรมการฯ, งานประชุม, งานสัมมนาและอื่นๆในนามสมาคมโรงสีข้าวไทยนับพันครั้งผมร่วมทำงานกับสมาคมเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกฯ”

 

 

 

แต่การทำงานของสมาคมฯ มักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับภาครัฐค่อนข้างมากทำให้มีข้อจากัดในการทำงานเนื่องจากทางราชการเองก็มีแนวทางในการทำงานที่ต้องดูแลในภาพกว้างทำให้การทำงานสำเร็จตามตั้งใจ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถที่จะเป็นไปตามใจของสมาชิกทุกอย่างได้ ขอเรียนให้ทราบว่าในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันภาวะการดำเนินธุรกิจโรงสีข้าวค่อนข้างยากลำบากในขณะที่ภาครัฐเองก็ไม่มีแนวทางในการส่งเสริม "อาชีพโรงสี" การทำงานของสมาคมโรงสีข้าวไทยในสมัยต่อไปต้องได้ความร่วมมือทั้งความรู้และการร่วมทำงานจากสมาชิกสมาคมฯ อย่างแข็งแรง และ ต่อเนื่องเรียนพี่ๆเพื่อนๆน้องๆชาวโรงสีข้าวทุกท่าน

 

หลังจากคิดไตร่ตรองหลายครั้งว่าผมสามารถทำประโยชน์ให้กับสมาชิกของสมาคมโรงสีข้าวไทยได้หรือไม่  นโยบายของภาครัฐที่มุ่งเน้นสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ด้วยนโยบายการกระจายเม็ดเงินโดยตรง สมาคมต้องทำงานร่วมกับภาครัฐอย่างใกล้ชิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีการซื้อขายออนไลน์และอื่นๆผมเห็นว่าผมพอจะทำงานได้จึงขออาสาทำงานให้สมาชิกอีกครั้งในตำแหน่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยโดยผมพยายามจะมุ่งเน้นให้คนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของผู้ประกอบการโรงสีข้าวได้เข้ามามีบทบาททำงานให้กับสมาคมให้มากขึ้นนาเทคโนโลยี่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาประยุกต์ใช้ในการทางานโดยเฉพาะการสื่อสารกับสมาชิกของสมาคมฯ"กรรมการรู้สมาชิกก็ต้องรู้" 

 

สมาคมฯ ต้องทำงานเพื่อตอบสมาชิกได้ว่าเป็นสมาชิกสมาคมฯแล้วได้อะไร เว็บไซต์ของสมาคมฯ ต้องตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกและเป็นตลาดในการซื้อขายทั้งภายในและต่างประเทศ เป็นตลาดที่ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกันในรูปแบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ โดยสมาคมฯต้องจัดรูปแบบกติกาให้มีความยุติธรรมน่าเชื่อถือและเป็นตลาดกลางของผู้ซื้อและผู้ขายส่วนการทำงานร่วมกับภาครัฐผมอยากให้มีกรรมการชุดเล็กที่คอยให้ข้อเสนอแนะตกผลึกทางความคิดและเข้าร่วมประชุมในแนวทางเดียวกัน 

 

“หัสดิน” ขันอาสานั่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย

หลังจากประชุมแล้วก็มีการรายงานให้กับสมาชิกได้ทราบถึงผลของการประชุมอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะทำก็คือต้องการให้อาชีพของ "โรงสีข้าว" เป็น "อาชีพที่มีเกียรติ" ไม่ถูกสังคมกล่าวหาว่า พวกเรา เอาเปรียบ "เกษตรกร" ผมจะทำงานบนพื้นฐานของการเป็นผู้รับฟังที่ดี แต่หลังจากรับฟังทุกฝ่ายแล้วก็จะต้องมีแนวทางในการสรุปผลและนำไปปฏิบัติสมาคมฯ ต้องมีจุดยืนของสมาคมฯ ทุกครั้งที่เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานภายนอกขอขอบคุณทุกๆท่านที่โทรศัพท์มาให้กำลังใจผมในการทำงาน ผมขอยืนยันว่าแม้ผมจะได้รับเลือกให้ทำงานในตำแหน่งนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยหรือไม่ก็ตามผมก็จะยังคงอยู่และทำงานให้กับสมาคมต่อไปจึงเรียนมาด้วยความเคารพและขอการสนับสนุนจากท่านขอแสดงความนับถือ

 

นายหัสดิน เผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการที่มีหนังสือออกมาเช่นนี้ไม่ใช่ "ความแตกแยก" แต่เป็นการบอกว่าสมาชิกสมาคมโรงสีข้าวไทยจากภาคอีสานขอเป็นตัวเลือกในการเป็นนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และแม้ว่าจะไม่ได้รับเลือกก็ยังจะคงทำงานกับสมาคมโรงสีข้าวไทยต่อไป