เปิดอาณาจักรค้าปลีก 2 เจ้าสัว “ธนินท์-เจริญ”

15 พ.ย. 2563 | 04:06 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2563 | 04:48 น.

เปิดอาณาจักรค้าปลีก 2 เจ้าสัวเมืองไทย “ธนินท์ เจียรวนนท์-เจริญ สิริวัฒนภักดี” หลังสมรภูมิเปลี่ยน “ซีพีควบเทสโก้ โลตัส”

อุตสาหกรรมค้าปลีก-ค้าส่งเมืองไทยที่มีมูลค่ากว่า 4 ล้านล้านบาท เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง หลังคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) มีมติอนุญาตให้รวมธุรกิจระหว่างบริษัท ซี.พี.รีเทลดีเวลลอปเม้น จำกัดโดยกลุ่มซี.พี. และบริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด  ทำให้ “เทสโก้ โลตัส” กว่า 2,000 สาขาต้องโยกไปอยู่ภายใต้กลุ่มซี.พี. อาณาจักรของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ จึงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

การควบรวมกิจการของซีพี และเทสโก้ โลตัสในครั้งนี้จะส่งผลให้อาณาจักรค้าปลีกของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ มีรายได้รวมกว่า 970,365 ล้านบาท ประกอบด้วย

 

ธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น”  จากข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 มีสาขารวม 12,225 สาขา ในปี 2562 มีรายได้รวม 571,110 ล้านบาท  มีกำไร 22,343 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกปี 2563 มีรายได้รวม 409,381 ล้านบาท ลดลง 3.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มาจากผลกระทบมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลตั้งแต่ไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 12,530 ล้านบาทลดลง 22.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ค้าปลีกเดือด “ธนินท์-เจริญ” เปิดศึก สาดสงครามราคา-โชห่วยกระอัก

ค้าปลีกในอุ้งมือ 2 เจ้าสัว "ซีพี - เจริญ" กุม 3 ล้านล้าน

บอร์ดแข่งขันไฟเขียว "ซีพี" ควบ "โลตัส" แบบมีเงื่อนไข เข้าข่ายมีอำนาจเหนือตลาดเพิ่ม

เปิดประวัติ 7 กรรมการกขค. ใครเห็นชอบ-คัดค้านซีพีควบ "โลตัส"

  เปิดอาณาจักรค้าปลีก 2 เจ้าสัว “ธนินท์-เจริญ”

ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร” จากข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 มีสาขารวม 145 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 137 สาขา ต่างประเทศ 8 สาขา ในปี 2562 มีรายได้รวม  210,627 ล้านบาท กำไร 6,245 ล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนแรกปี 2563 มีรายได้รวม 161,686  ล้านบาท เพิ่มขึ้น  4.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิ 4,433 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

 

ธุรกิจดิสเคาน์สโตร์เทสโก้ โลตัส” จากข้อมูล ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2562 มีสาขารวม 2,158 สาขา แบ่งเป็นเทสโก้ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต 214 สาขา เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 1,574 สาขา ตลาดโลตัส 179 สาขา พื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 191 สาขา ในปี 2562 มีรายได้รวม 188,628 ล้านบาท มีกำไร 7,819 ล้านบาท

 

ขณะที่อาณาจักรค้าปลีกของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แน่นอนว่าธุรกิจหลักจะอยู่ที่ธุรกิจดิสเคาน์สโตร์ ซึ่งมี “บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต” ภายใต้การดูแลของเบอร์ลี่ยุคเกอร์ หรือบีเจซี จากข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 มีสาขารวม 1,516 สาขา แบ่งเป็น บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 150 สาขา บิ๊กซี มาร์เก็ต 52 สาขา มินิบิ๊กซี 1,157 สาขา บิ๊กซี ฟู้ดเพลส 6 สาขา บิ๊กซี ดีโป้ (ค้าส่ง) 5 สาขา ร้านขายยาเพียว 145 สาขา โดยในปี 2562 มีรายได้รวม 126,904 ล้านบาท  กำไร 6,604 ล้านบาท

เปิดอาณาจักรค้าปลีก 2 เจ้าสัว “ธนินท์-เจริญ”

นอกจากนี้ธุรกิจค้าปลีกของเจ้าสัวเจริญ ยังมีศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ , เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ , พันธุ์ทิพย์พลาซา 4 สาขา ได้แก่ ประตูน้ำ, งามวงศ์วาน, บางกะปิ และเชียงใหม่, ตะวันนา, และศูนย์การค้าเกตเวย์ 2 สาขา คือเกตเวย์ เอกมัยและเกตเวย์ แอท บางซื่อ

 

หลังการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มซี.พี.และเทสโก้ โลตัส คงต้องจับตาดูต่อไปว่า จะยอมรับเงื่อนไขที่กขค. กำหนดขึ้นและปฏิบัติได้จริงแท้แค่ไหน