นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น ประกันรายได้ยางพารา ซึ่งมีเกษตรกรได้สอบถามมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ว่าสำหรับผู้ถือบัตรสีชมพูจะสามารถได้รับเงินส่วนต่างหรือไม่นั้น วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอ ซึ่งมีผลชัดเจนแล้วว่า ผู้ที่จะได้รับเงินส่วนต่างจะมีทั้งเกษตรกรชาวสวนยางที่ถือบัตรสีเขียว และที่ถือบัตรสีชมพูด้วย โดยผู้ถือบัตรสีเขียวมีประมาณ 9.6 แสนราย ส่วนผู้ถือบัตรสีชมพู จะมีประมาณ 3.4 แสนราย รวมแล้วจะมีเกษตรกรชาวสวนยางที่จะได้รับเงินส่วนต่างประมาณ 1.3 ล้านรายทั่วประเทศจากทุกภาค
การจ่ายเงินส่วนต่างจะแบ่งเป็น 6 งวด เดือนละ 1 งวด โดยจะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ส่วนเงินส่วนต่างที่ได้มีการคำนวนออกมาสำหรับงวดแรกนั้นก็จะเป็นดังนี้ คือ น้ำยางข้น จะมีเงินส่วนต่าง กก.ละ 4.14 บาท ยางก้อนถ้วย ได้ กก.ละ 3.19 บาท ส่วนยางแผ่นดิบ จะไม่มีเงินส่วนต่างเพราะขณะนี้ราคายางแผ่นดิบทะลุเลย 60 บาทเลยเพดานประกันรายได้ไปแล้ว โดยราคาที่เป็นทางการเมื่อวานนี้ ยางแผ่นดิบชั้น 3 กก.ละ 65 บาท ชาวสวนได้ประโยชน์
สำหรับภาพรวมทั้งหมดของเงินส่วนต่างงวดแรกรวม 1,789 ล้านบาท ซึ่งราคายางในปัจจุบันถือว่ากระเตื้องดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว เพราะปีที่ผ่านมา ราคายางแผ่นดิบโดยเฉลี่ย กก.ละ 40 บาท แต่ช่วงเวลานี้มีราคาทรงตัวมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยเพิ่มขึ้นเป็น กก.ละ 60 กว่าบาท ส่วนราคาน้ำยาง กก.ละ 55-57 บาท ยางก้อนถ้วยราคาวานนี้ กก.ละ 21.25 บาท บางช่วงมีราคา 22-23 บาท ซึ่งถือว่าราคายางในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก
อย่างไรก็ตาม การยางแห่งประเทศไทยรายงานว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะ Kick off จ่ายเงินส่วนต่างพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 11 ธันวาคม 2563 เวลา 10.30 น.โดยจะมีการจัดงานที่อำเภอท้ายเหมืองจังหวัดพังงา ด้วย ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นการรับรู้ประชาชนและเกษตรกรชาวสวนยาง