นางสาวดาวสิริ ณ ถลาง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิมบาทอยส์ (ไทยแลนด์) เปิดเผยว่า แบรนด์ ซิมบาทอยส์ ถือเป็นบริษัทผู้นำเข้าของเล่นสำหรับกลุ่มผู้ชาย โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งมีช่วงอายุประมาณ 20-45 ปี เพราะสินค้าส่วนใหญ่เป็นโมเดลสำหรับสะสม ซึ่งตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ยอดขายเริ่มชะลอตัว
บริษัทจึงปรับแผนการตลาดโดยนำกลยุทธ์ “ ร้านค้าเคลื่อนที่” (Pop Up Retail) เข้ามาใช้เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำผลิตภัณฑ์และกิจกรรมไปจัดจำหน่ายในสถานที่ต่างๆ รวมทั้งจัด Road Show Event ที่ยกทัพสินค้าแบรนด์ต่างๆไปจัดจำหน่าย ทำกิจกรรมแข่งราง และแสดงสินค้าทั่วเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อใกล้ชิดและสะดวกต่อการซื้อของลูกค้ามากขึ้นในทุกๆ เดือน
ด้านนายรุ่งฤทธิ์ ธีระบุญชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท นิชิเวิร์ล จำกัด กล่าวว่า แบรนด์นิชิเวิร์ล (Nichiworld) เป็นผู้แทนจำหน่ายของเล่นชั้นนำในประเทศไทย มีสถานที่จัดจำหน่ายหลักคือโซนของเล่นในศูนย์การค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพบว่า ทิศทางตลาดของเล่นในประเทศไทยอยู่ในจุดที่ลดลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดุสิตธานี ชู 3 โมเดลทางรอดสู้พิษโควิด-19 ผนึก Local Alike รุกตลาดแนวใหม่
พิษโควิด ทำกบข.ทบทวนกรอบลงทุนระยะยาว 5-10 ปี
การตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างกลุ่มผู้ปกครองมีการซื้อลดลง เพราะมองว่าของเล่นสำหรับบุตรหลานเป็นสิ่งจำเป็นรองลงมาในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ทั้งนี้จากการประเมินก็ยังพบว่า กลุ่มเป้าหมายรอง อย่างกลุ่มวัยทำงาน มีการซื้อเพิ่มขึ้น เพื่อเก็บเป็นของสะสม
บริษัทจึงได้เตรียมปรับแนวทางการตลาดของ 2P คือ “สินค้า” (Product) มีการนำเข้าและพัฒนาสินค้าให้เป็นประเภทของสะสมเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่เป็นเพียงของเล่น อีกทั้งยังได้เพิ่มลูกเล่นความสนุกให้กับสินค้าในลักษณะ สินค้าแบบสุ่ม คือ การออกสินค้าเป็นคอลเลคชั่น การซื้อแต่ละครั้งต้องลุ้นว่าจะได้ของเล่นตัวใดไป
ต่อมาคือการปรับในเรื่องของ “สถานที่” (Place) สร้างสถานที่จำหน่ายรูปแบบใหม่ แทนการอยู่กับที่รอลูกค้าเข้ามาหา ด้วยการจัดคาราวานของเล่นไปยังสถานที่ต่างๆ หรือ Event troop ซึ่งมีข้อดีคือ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง สามารถเลือกพื้นที่ขายได้ ทำให้กลุ่มลูกค้าใหม่ได้เห็นสินค้า เพราะเดิมสินค้าของเล่นจะตั้งอยู่เฉพาะในโซนของเล่น ก็จะมีแต่แม่และเด็กที่เดินเข้ามาโซนนี้ ยกตัวอย่างเช่น ล่าสุด กับการตั้งจำหน่ายที่ลานอีเว้นท์กลาง ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ นอกจากจะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นแม่และเด็กแล้ว ยังได้กลุ่มวัยทำงาน พนักงานออฟฟิศเพิ่มเติมด้วย
ขณะที่นายไพโรจน์ บุญจันทร์ กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ทั้งตัวศูนย์การค้ารวมไปถึงกลุ่มผู้เช่าและกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ จากการสำรวจของศูนย์พบว่ากลุ่มผู้เช่าหลายแบรนด์มีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการตลาด อาทิ ไม่มีการขยายสาขาเพิ่มเติมในปีนี้และปีหน้า มองหาพื้นที่เช่าที่มีสัญญาระยะสั้นไม่ผูกมัด โดยเฉพาะกลุ่ม SME ที่ต้องการสร้างแบรนด์ รวมถึงการมองหาสถานที่แบบเปิดสำหรับการทำกิจกรรม Below the line เป็นต้น
ศูนย์การค้า ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ได้เล็งเห็นแนวทางการตลาดของกลุ่มผู้เช่าที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้นำจุดเด่นในด้านการเป็นศูนย์การค้าแบบเปิด (Open Air Mall) มีพื้นที่ลานกิจกรรมขนาดใหญ่และหลากหลายพื้นที่ มาให้บริการในลักษณะ “ป๊อบอัพ” (Pop Up) รองรับความต้องการของกลุ่มผู้เช่าทุกรูปแบบทั้ง ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์บริการ ศูนย์เรียนรู้ และการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเข้ามาจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ
โดยมีจุดเด่นคือ รูปแบบสัญญาเช่าพื้นที่ชั่วคราว ที่กลุ่มผู้เช่าสามารถหารือระยะเวลาเช่าที่ต้องการได้ ล่าสุด นำร่องร่วมกับ บริษัท ซิมบ้าทอยส์ (ไทยแลนด์) และบริษัท นิชิเวิร์ล จำกัด จัดกิจกรรมในรูปแบบ “ร้านค้าเคลื่อนที่” (Pop Up Retail) นำของเล่นแบรนด์ดัง กว่า 1,000 รายการ มาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ ตลอดทั้งเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการและกลุ่มพนักงานออฟฟิศภายในศูนย์การค้า