เทรนด์การตลาดปี 64 ตอบโจทย์ Next Normal 

04 ม.ค. 2564 | 00:00 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ม.ค. 2564 | 10:36 น.

วิกฤติโควิด-19 นอกจากจะทำให้เกิด “ความปกติใหม่” หรือ New Normal พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน วันนี้ New Normal เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และกลายเป็น “ความปกติในปัจจุบัน” หรือ Now Normal  แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยังคงมีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเกิดโควิดระลอกใหม่รวมถึงการเข้ามาของวัคซีน ย่อมส่งผลต่อวิถีของ “ความปกติบทต่อไป” หรือ “Next Normal” กลยุทธ์การทำตลาดจึงต้องปรับอย่างฉับไว

 

“อนุวัตร เฉลิมไชย” นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย แสดงทัศนะถึงการตลาดในยุคใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า โควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกธุรกิจ ส่งผลให้เกิด New Normal เมื่อโควิดเป็นตัวเร่งให้คนไทยก้าวสู่โลก Digital Lifestyle เร็วขึ้น ขณะที่ New Technology เข้ามามีบทบาทเปลี่ยนโลกการตลาดแบบเดิมๆ ซึ่งโลกอะนาล็อก ให้กลายเป็นโลกแห่งดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI, Mixed Reality, 5G ฯลฯ และ New Consumers ซึ่งกลุ่มที่จะมีพลังอำนาจในการซื้อคือ Generation Z และ Silver Generation ดังนั้นนักการตลาดต้องปรับตัวให้ทันกับความท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้น

 

“วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมถึงวิกฤติและความท้าทายต่าง ๆ ทำให้นักการตลาดในยุคนี้ต้องปรับตัวให้ทันกับโลกการตลาดยุคใหม่อยู่เสมอ นับวันจึงเห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นการทำตลาดรูปแบบใหม่ๆ”

 

นักการตลาดยุคนี้ต้องเพิ่มศักยภาพใน 4 ด้าน ทั้ง Reskill & Upskill สร้างโอกาสตัวเอง ให้มีศักยภาพพร้อมก้าวสู่โลกการตลาดยุคใหม่ โดยคำนึงถึงเรื่องของ Strategic marketing การวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนก่อนออกเดินทางในโลกธุรกิจ, Martech & Innovations การเรียนรู้ที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาปรับใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่แตกต่าง, Storytelling การสื่อสารอย่างมีศิลปะ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในโลกที่เต็มไปด้วยสาสน์จากหลายแบรนด์ และ Marketing integrity & Sustainability การเติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของธรรมาภิบาลที่ดี

 

“การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค (SWOT) การวางแผนการขยายธุรกิจ (Ansoff’s Matrix) วิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย (Target Analysis) รวมถึงการสร้างคุณค่าให้ธุรกิจผ่านการพัฒนา และสื่อสารความแตกต่างจากธุรกิจอื่น กับผู้บริโภคให้เข้าใจ (Build Value) ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการมีโครงสร้างที่ยึดหยุ่น ทำให้มีความคล่องตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสูง และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้สูงขึ้น” นางสาวลักษมณ เตชะสิริวิชัย หัวหน้าทีมการนำเสนองานวิจัย Never Normal Marketing และนักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าว

เทรนด์การตลาดปี 64  ตอบโจทย์ Next Normal 

 

ขณะที่กลยุทธ์การตลาดที่จะถูกนำมาใช้ในโลกธุรกิจในยุค Next Normal ได้แก่ Total Business Solution การผสานกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า การทำงานร่วมกับลูกค้า ผ่านการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม (Integrated Offline & Online Marketing Communication) “ภวัต เรืองเดชวรชัย” ประธานกรรมการ Media Intelligence หรือ กลุ่ม MI กรุ๊ปมีเดียเอเจนซี่ในเครือ Hakuhodo และ Far East Fame Line DDB กล่าวว่า วันนี้ลูกค้าเองต้องการ Total Business Solution ไม่ใช่เพื่อให้ขายได้เพียงอย่างเดียว ต่อต้องนำเสนอถึงการสร้างแบรนด์ในระยะยาว

 

การตอบโจทย์การทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อให้ได้ Total Business Solution จึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการวางแผนการสื่อสารแบบองค์รวม Integrated Offline & Online Marketing Communication ครอบคลุมทั้ง Branded Content, การทำ Brand Activation ทั้ง Event, Road Show, Press Conference, Troop และการทำ PR & Publicity ฯลฯ

 

“โควิด ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป และจะไม่เด้งกลับดังนั้นใครปรับตัวได้เร็ว สร้างความแตกต่างได้ จะส่งผลให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เร็ว”

 

อีกกลยุทธ์ที่จะยังคงร้อนแรง และถูกใช้เป็นหัวหอกหลักในการทำธุรกิจในปีหน้า หนีไม่พ้น “Collaboration Marketing” หรือการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ เพราะวันนี้โลกธุรกิจไม่สามารถเดินหน้าได้ด้วยตัวคนเดียว การผนึกพันธมิตรสร้างเครือข่ายเพื่อปิดจุดอ่อน เสริมจุดแข็งของแต่ละองค์กร ถือเป็นการเดินหน้าธุรกิจแบบ win win ซึ่งต้องยอมรับว่าในปีนี้ มีหลายองค์กรที่ผนึกพันธมิตรในการทำการตลาดรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิม เช่น สยามพารากอนกับ JOOX จัดงาน “JOOX x Siam Paragon Presents Thailand Top 100 by JOOX 2020 Social “HIT”-ancing ดูห่างห่าง อย่างฮิตฮิต”

 

คอนเสิร์ตวิถีใหม่ผสานรูปแบบออนกราวด์ และออนไลน์ไว้ในงานเดียว ชูคอนเซปต์ ‘WATCH PARTY’ จัดเต็มคอนเสิร์ต 3 เวทีใน 3 จังหวัด ได้แก่ ‘TCDC ขอนแก่น’ ‘วัน นิมมาน เชียงใหม่’ และ ‘พาร์ค พารากอน กรุงเทพฯ’ และไลฟ์ส่งตรงความมันบนแพลตฟอร์ม JOOX และ Sanook.com ชมต่อเนื่องถึง 7 ชั่วโมง พร้อมดึงเทคโนโลยีมาสร้าง Engagement ระหว่างรับชม

 

“ธณพร ตันติยานนท์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกิจกรรมการตลาด และธุรกิจสัมพันธ์ ศูนย์การค้า ให้เหตุผลถึงความร่วมมือกันในครั้งนี้ว่า เป็นไปตามกลยุทธ์ Collaboration to win ของสองผู้นำในธุรกิจที่แตกต่างที่ผสานศักยภาพความแข็งแกร่ง ถือเป็นการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ตื่นเต้น เร้าใจ ให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และยังเป็นกิจกรรมการตลาดที่เชื่อมโยงประสบการณ์ออนกราวด์ และออนไลน์เข้าไว้ด้วยกัน

 

ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ลุกขึ้นมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ภายใต้ “Collaboration Marketing” ที่เชื่อว่าจะยังคงเป็นกลยุทธ์แรงใน Next Normal นี้

 

เช่นเดียวกับ “Seamless Experience” ซึ่งเชื่อว่าแรงเหวี่ยงของโควิด-19 ที่ช่วยให้คนไทยหันมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ความนิยมในโลกโซเชียลเพิ่มสูงขึ้น เรื่องของออนไลน์จึงเข้ามามีบทบาท นอกเหนือจากการขายผ่านออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) ยังรวมไปถึงการทำกิจกรรมการตลาด การจัดโปรโมชั่น การสื่อสาร ผ่านช่องทางออนไลน์ “ออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง” จึงมีบทบาทสำคัญและถูกใช้เป็นเครื่องมือสำคัญ

 

แต่หลายองค์กรที่มีความแข็งแรงทางฟิสิกคัลสโตร์ หรือช่องทางออฟไลน์ ถึงวางเป้าหมายที่จะเชื่อมหรือผสานประโยชน์ให้เกิดขึ้นทั้งสองด้าน ทั้งการเดินหน้าขยายออนไลน์เพื่อใช้เป็นช่องทางใหม่ใช้ต่อยอดจากช่องทางออฟไลน์ และสร้างโอกาสในการขาย สื่อสารแบรนด์ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแบบไร้รอยต่อ ผ่านกลยุทธ์การทำตลาด ออมนิ แชนนอล มาร์เก็ตติ้งหรือ O2O Marketing (Online to Offline Marketing) ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ หรือ Seamless Experience

 

ยังมีอีกหลายกลยุทธ์ที่จะมาเป็นแรงหนุนให้ธุรกิจเดินหน้าได้ และไม่ว่ากลยุทธ์ใหม่หรือเก่า การเลือกใช้ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย และตอบโจทย์ลูกค้าได้คือ กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุด 

 

หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,641 วันที่ 3 - 6 มกราคม พ.ศ. 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทรนด์การตลาดยุค New Normal ปรับกลยุทธ์รับการเปลี่ยนแปลง

สมการความสำเร็จ "นักการตลาด" สายพันธุ์ใหม่ ฝ่ามหาวิกฤติ “โควิด-19”

แนะกลยุทธ์ 3Ts  ตอบโจทย์การตลาด Personalization