นางสาววิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด อีฟ โรเช่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งในเอเชียและยุโรป ทำให้อีฟ โรเช่ ซึ่งมีสาขาอยู่กว่า 4,000 แห่งใน 90 ประเทศ ได้รับผลกระทบไปด้วย โดยเฉพาะในยุโรป อย่างไรก็ดี บริษัทได้ปรับกลยุทธ์โดยหันโฟกัสในช่องทางออนไลน์มากขึ้นตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ถือเป็นประเทศที่ 2 ที่มีการทำตลาดผ่านออนไลน์ ต่อจากบริษัทแม่ ในประเทศฝรั่งเศส
“แม้อีฟ โรเช่ จะอยู่ในตลาดมานานถึง 60 ปี แต่บริษัทมุ่งเน้นการขายผ่านหน้าร้านเป็นหลัก ขณะที่บริษัทแม่ เริ่มทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์เพียง 1-2 ปี ดังนั้นเมื่อโควิด-19 เกิดขึ้นและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในยุโรป จึงได้รับผลกระทบไปด้วย แต่การขายออนไลน์กลายเป็นอีกทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ ขณะที่ประเทศไทยเริ่มทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากเดิมที่มีวางจำหน่ายในมาร์เก็ตเพลส อย่างลาซาด้าเท่านั้น”
บริษัทแม่ให้ความสำคัญกับตลาดเมืองไทยมาก ถือเป็นหนึ่งในคีย์ ซัคเซสของอีฟ โรเช่ หลังเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ โลโก้ใหม่ที่นำเสนอ DNA ของอีฟ โรเช่ และหากกลยุทธ์การทำตลาดในช่องทางออนไลน์ประเทศไทยประสบความสำเร็จ จะถูกใช้เป็นต้นแบบให้กับอีฟ โรเช่ สาขาอื่นๆ ทั้งที่บริษัทแม่เป็นผู้ดูแล และบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายด้วย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันในเอเชีย มีสาขาที่บริษัทแม่เป็นผู้บริหารจัดการคือ ประเทศไทย และเวียดนาม ส่วนที่เหลือเป็นการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเป็นผู้ดูแล ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนเข้ามาบริหารจัดการเองทั้งหมด แต่หลังการเกิดโควิด-19 ทำให้ต้องรีวิวแผนการดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การทำตลาดหลังพบว่า การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ลูกค้าเข้ามาในร้านลดลง โดยปิดสาขาอีฟ โรเช่ พร้อมโยกพนักงานมาให้บริการในช่องทางออนไลน์ เป็น BA Commerce แทน ซึ่งพบว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดี สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง นอกจากนี้ยังปรับกลยุทธ์เน้นสร้างความผูกพันกับแบรนด์ให้มากขึ้น พร้อมขยายฐานลูกค้าเดิมสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้ในปี 2563 บริษัทมีการเติบโต 7% สวนกระแสตลาดรวมที่มีการเติบโต-11%
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ 2 คน ได้แก่ ใหม่-ดาวิกา โฮเน่ร์ พรีเซ็นเตอร์โปรดักต์ไลน์แฮร์แคร์คนแรกในประเทศ เพื่อกระตุ้นยอดขายของกลุ่ม Green Generation Millennials และ บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์แคมเปญ “ช้อป แชร์ ได้เงินชิลๆ” ที่จะเปลี่ยนแปลงระบบสมาชิกใหม่ของ อีฟโรเช่ หรือ “อีฟ โรเช่ บิวตี้คลับ” เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุค Digital Life หลังพบว่า พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าหันมาซื้อผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 40%
“ปัจจุบันพบว่ายอดขายราว 80% มาจากหน้าร้าน ขณะที่ออนไลน์มีสัดส่วนราว 20% แต่การเติบโตกว่า 142% ในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งการรุกทำตลาดในช่องทางออนไลน์ต่อเนื่อง จะทำให้สัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 35% ในปีนี้ และหากแคมเปญช้อป แชร์ ได้เงินชิลๆ และการตลาดในออนไลน์ ประสบความสำเร็จ ก็จะนำไปใช้ในประเทศอื่นๆ ด้วย”
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 20% แม้จะเกิดการระบาดของโควิด ระลอกใหม่ แต่เชื่อว่าจากการวางแผนรองรับอย่างเต็มที่จะทำให้สามารถรักษายอดขายได้ ขณะที่ตลาดรวมคาดว่าจะมีการเติบโตติดลบ 8-9%
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,646 วันที่ 21 - 23 มกราคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉีกตำราการตลาด สร้าง Brand Love...'Yves Rocher'
ปักหมุดฟื้นตลาดความงาม สู้โควิด -19
เปิดที่ปรึกษาความงามเสมือนจริงบนอีคอมเมิร์ซ