“พาณิชย์”ปลื้มส่งออกข้าว ตลาดแคนาดาพุ่งเป็นครั้งแรก

27 ม.ค. 2564 | 12:20 น.

“กรมการค้าต่างประเทศ” ชี้หลังรุกโปรโมทข้าวไทย ส่งผลให้ไทยส่งออกข้าวไปตลาดแคนาดาพุ่งจากเดิมส่งออกเพียงปีละ7-8หมื่นตันพุ่งเป็น1แสนตันนับตั้งแต่มีการส่งออกข้าวไปแคนาดา ปีนี้เน้นหนักเจรจาขายข้าวออนไลน์ และโปรโมทข้าวไทยในทุกตลาด

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าปีที่ผ่านมากรมได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการดำเนินการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในต่างประเทศจาก Offline เป็น Online มากขึ้น โดยแผนดังกล่าวให้ความสำคัญกับการรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและการแสวงหากลุ่มลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมตลาดข้าวมากขึ้น   ซึ่งการเน้นการประชาชสัมพันธ์ข้าวไทยและการทำงานเชิงรุกในด้านการจับคู่แจรจาซื้อขายข้าว  การโปรโมทข้าวไทยและการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยกลยุทธ์ต่างๆ และการใช้สื่อออนไลน์ ซึ่งในปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เห็นได้จากตลาดแคนาดาที่เดิมนำเข้าเข้าจากไทยปีละ7-8 หมื่นตันเท่านั้นแต่หลังจากที่กรมใช้นโยบายเชิงรุกในการทำตลาดมากขึ้น ปี63 ไทยส่งออกข้าวไปตลาดแคนาดาถึง1แสนตันถือว่าเป็นครั้งแรกของการส่งออกข้าวไปแคนาดา  

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

 

 

 

 

 

 

ดังนั้นในปีนี้กิจกรรมหลักๆที่จะจัด ประกอบด้วย  1.การหารือกระชับความสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ผ่านระบบ Video conferenceอาทิ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย อิรัก บังกลาเทศ เป็นต้น รวมทั้งการหารือประเทศผู้ส่งออกข้าว เช่น เวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์การผลิตและตลาดข้าว 2. การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยเพื่อเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ 3. จัดกิจกรรมต่อยอดข้าวหอมมะลิไทยที่ได้เเชมป์ข้าวที่ดีที่สุดในโลกปี 2563 (World’s Best Rice 2020) ผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

“พาณิชย์”ปลื้มส่งออกข้าว    ตลาดแคนาดาพุ่งเป็นครั้งแรก

“กรมฯ ในฐานะหนึ่งในหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทย ปี 2563 – 2567 จะใช้โอกาสนี้ในการเร่งดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ข้าวไทยให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับกฎระเบียบให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทย การจัด Workshop เพื่อพิจารณาแนวทางผลักดันการพัฒนาพันธุ์ข้าวโดยประสานกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งการจัดทำข้อมูลตลาดข้าวเชิงลึกเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานภาคการผลิตต่อไป ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” เพื่อให้ไทยสามารถผลิตสินค้าข้าวที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละตลาดมากขึ้น”