วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำโครงการประกันรายได้ ปีที่ 2 สำหรับสินค้าเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ได้ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครบหมดทุกตัวแล้ว โดยปาล์มน้ำมัน เป็นตัวล่าสุดที่เพิ่งมีมติอนุมัติโครงการ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เป็นน้องสุดท้อง คิวทอง “ปาล์มน้ำมัน” เมื่อพิจารณาสถานการณ์สินค้าปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ราคาเฉลี่ยผลปาล์มในแหล่งผลิตสำคัญ อ้างอิงราคา ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ดังนี้ จ.สุราษฎร์ธานี กก.ละ 6.90 – 7.50 บาท จ.กระบี่ กก.ละ 7.00 – 7.30 บาท จ.ชุมพร กก.ละ 6.90 – 7.50 บาท จ.นครศรีธรรมราช กก.ละ 7.20 – 7.40 บาท จ.พังงา กก.ละ 7.00 บาท จ.ตรัง กก.ละ 6.60 – 7.00 บาท จ.ปัตตานี กก.ละ 6.90 บาท ราคาน้ำมันปาล์มดิบ ณ ตลาดกรุงเทพฯ อยู่ที่ กก.ละ 39.50 – 40.00 บาท
“ตอนนี้ชาวสวนปาล์มจะมีรายได้จากการขายผลผลิตมากขึ้นขณะนี้ชาวสวนปาล์มบำรุงรักษาต้นปาล์มให้มากขึ้นเพื่อจะได้มีผลผลิตคุณภาพดีเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะปาล์มน้ำมัน เป็นพืชเกษตรในโครงการประกันรายได้ตัวเดียว ที่ราคายังสูงกว่าราคาประกันรายได้ โดยปัจจุบันราคาปรับตัวสูงขึ้นทะลุกิโลกรัม (กก.) ละ 7.50 บาท ขณะที่ราคาประกันรายได้อยู่ที่ กก.ละ 4.00 บาท เกษตรกรกว่า 3.7 แสนราย ต้องการให้มี “หลักประกัน” ให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม”
นางมัลลิกา กล่าวว่า ราคาที่สูงขึ้น ถือเป็นผลดีกับชาวสวนปาล์ม ที่ขายผลผลิตและมีรายได้สูงขึ้น แต่เพื่อให้มีหลักประกันไว้รองรับ กรณีที่ราคาปาล์มปรับตัวลดลง ก็ต้องมีโครงการประกันรายได้เอาไว้ยัน แต่มั่นใจว่าปีนี้ ราคาปาล์มเกษตรกรจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนไปพิจารณา โครงการประกันรายได้ปีแรก “ปาล์มน้ำมัน” ถือเป็นพืชเกษตรที่ราคาดีทำให้มีการจ่ายส่วนต่างในงวดที่ 1 และ 2 พอมางวดที่ 3-5 ไม่ต้องจ่าย มาจ่ายอีกครั้งงวดที่ 6-10 แต่งวดที่ 11-13 ก็ไม่ต้องจ่าย ทำให้ปีแรกที่ดำเนินการตั้งแต่ 1 ต.ค.2562 ถึง 30 ธ.ค.2563 กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จ่ายเงินประกันรายได้ให้ชาวสวนปาล์มจำนวน 378,892 ครัวเรือน วงเงิน 7,221 ล้านบาท คิดเป็น 55.55% ของวงเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้เกษตรกรที่ตั้งไว้ 13,000 ล้านบาท เป็นการบริหารของรัฐบาลโดยโครงการปีแรกแบบที่รัฐยังมีเงินเหลือเพราะไม่ต้องจ่ายชดเชยมาก และคาดว่าปี2 จะราคาดี ไม่แพ้ปีแรก
"ฐานเศรษฐกิจ" มาอัพเดทสถานการณ์ราคาปาล์ม ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564
อนึ่ง เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ มันสำปะหลัง สามารถตรวจสอบสถานะการจ่ายเงินรายได้ข้าวด้วยตัวเอง ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สหกรณ์ปาล์มกระบี่” ระงม โดนเบี้ยวค่าจ้าง
“ชาวไร่ข้าวโพด” อาชีพเสี่ยงสูญพันธุ์ ในอีก 2 ปี