นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเอาผิดผู้ที่ทุจริตโครงการจัดซื้อถุงมือยางมูลค่า1.12แสนล้านบาทว่า หลังจากที่อคส.ส่งข้อมูล คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีรองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน พบเจ้าหน้าที่ อคส. เกี่ยวข้อง 3 รายนั้น ขั้นตอนหลังจากนี้คือการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีก3คณะ ประกอบด้วยคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงซึ่งมีพันตำรวจเอก สุรพงษ์ เปล่งขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้าเป็นประธาน สืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาความผิดที่เกิดขึ้น ทั้งนี้หากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงชี้มูลความผิดซึ่งช้าสุดน่าจะแล้วเสร็จต้นเดือนหน้า หลังจากจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้คณะกรรมการอีก2ชุดคือ คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง เพื่อชี้โทษผู้กระทำผิด เช่น พักงาน หรือ ไล่ออก และคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความรับผิดของเจ้าหน้าที่(หรือคณะกรรมการสอบละเมิด) ซึ่งคณะกรรมการ2ชุดหลังจะมีหน้าที่พิจารณาค่าเสียหายจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกเป็นประธานเพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยยืนยันว่าจะเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทุกรายและเรียกค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยคืน ดำเนินการต่อ
ส่วนกรณีที่ พันตำรวจเอกรุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการ ผอ.อคส.ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาซื้อถุงมือยางกับ บริษัทการ์เดียนโกลฟส์และนำเงินของ อคส.จำนวน 2,000 ล้านบาท จ่ายให้กับบริษัทคู่สัญญาไปก่อนหน้านี้ จะทำหนังสือเสนอแนวทางบรรเทาผลกระทบมาให้ โดยให้ อคส.บอกเลิกสัญญากับบริษัทที่เกี่ยวข้องนั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นเนื่องจากสัญญาเป็นโมฆะอยู่แล้วเพราะสัญญาไม่สมบูรณ์
ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านอภิปรายเชื่อมโยงถึงประธานบอร์ด อคส.มีส่วนรู้เห็นกับการจัดซื้อถุงมือยางนั้น หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุว่า เจ้าหน้าที่ อคส.ที่เกี่ยวข้องให้การซัดทอดว่ามีส่วนรู้เห็นและมีหลักฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช.ไปหมดแล้วขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าตั้งแต่ วันอภิปรายไม่ไว้วางใจ 16 กุมภาพันธ์จนถึงวันนี้ ประธานบอร์ด อคส.ไม่ได้เข้ามาที่กระทรวงพาณิชย์แต่อย่างใด ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยามติดต่อสัมภาษณ์แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้