นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า SAWAD ได้ลงนามในสัญญาเพื่อร่วมลงทุนกับบริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.พ.64 หลังจากที่ผู้ถือหุ้น SAWAD ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ NOBLE ในวันพุธที่ 17 ก.พ.64
โดยในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ.64 NOBLE ได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท บริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด หรือ SWP ซึ่งดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) และเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ในสัดส่วน 20% คิดเป็นมูลค่าการร่วมลงทุนจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะมีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้น SWP ให้กับ NOBLE ดังกล่าว
นางสาวดวงใจ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ SAWAD และ NOBLE ก็จะร่วมมือกันในการรุกธุรกิจเต็มที่ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของแต่ละแห่งมาเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการ เพราะธุรกิจการซื้อหนี้มาบริหารจัดการต้องใช้ทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยปีนี้ SWP ตั้งเป้าประมูลหนี้สถาบันการเงินมูลค่าประมาณ 4 พันล้านบาท
นอกจากการประมูลหนี้แล้ว SWP จะต้องมาวิเคราะห์สินทรัพย์ที่มีอยู่ว่า สามารถพัฒนาโครงการใดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม นอกเหนือจากการขายสินทรัพย์ที่ประมูลมา เนื่องจาก NOBLE เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการรวมทั้งวิเคราะห์เรื่องของทำเล ซึ่งจะสนับสนุนให้การดำเนินธุรกิจของ SWP มีการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น
ด้านนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า การร่วมลงทุนในครั้งนี้ เพื่อสร้างความหลากหลายและขยายโอกาสในการเข้าลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ โดยใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ที่มีหลักประกันให้มากขึ้น
รวมถึงความชำนาญในการพัฒนาโครงการ การซ่อมแซม ปรับปรุง การตลาดและการส่งเสริมการขาย เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินทรัพย์ที่ได้จากการขายทอดตลาด หรือจากการชำระหนี้มากขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินทรัพย์ในราคาที่เหมาะสม มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้รูปแบบการบันทึกรายได้ทางบัญชีจะรับรู้เป็นส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในสัดส่วน 20% (Equity Method Accounting)
การผนึกกับ SAWAD จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการหนี้ที่มีหลักประกันของ SWP ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการขยายของพอร์ตสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจของ SWP ซึ่งคาดว่าจะทำให้ SWP มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และจะเป็นประโยชน์ SWP และผู้ถือหุ้นทุกฝ่าย