เนสท์เล่ ปั้น ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ ชิงเค้กตลาด Plant-based Meat

26 ก.พ. 2564 | 03:30 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.พ. 2564 | 03:40 น.

ตลาด Plant-based Meat โตแรง "เนสท์เล่" เปิดตัว ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ เจาะกลุ่ม Flexitarian ชิงตลาดมูลค่า 900 ล้านบาท

นางสาวเครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร และ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า เปิดเผยว่า จากกระแสความร้อนแรงของตลาด Plant based Food หรืออาหารจากพืช ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์การรักสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ตลาดเติบโต 20% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 900 ล้านบาท 

โดยเหตุผลหลักเป็นเรื่องของการดูแลสุขภาพกว่า 25% ไม่เพียงแต่ผู้บริโภคที่ทานมังสวิรัติ หรือ เจ แต่ยังรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคกลุ่ม Flexitarian ที่งดบริโภคเนื้อสัตว์ในบางมื้อหรือบางวัน แต่ก็ยังมองหาอาหารที่รสชาติอร่อยโดยมีสัดส่วน 1 ใน 4 ของประชากรในประเทศ แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มรักสุขภาพ 65% และกลุ่มที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก 20% 

ล่าสุด เนสท์เล่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plant based Meat ภายใต้แบรนด์ ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์ (HARVEST GOURMET™) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ plant based food มาที่เอเชีย

คุณเครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร และ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า_Plant based Food

 

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในทวีปยุโรปและอเมริกา รวมทั้งเป็นการเสริมพอร์ตสินค้าในกลุ่ม Plant-based ของเนสท์เล่ให้กว้างขึ้น และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภค ที่ใส่ใจสุขภาพและมองหาอาหารที่มีโภชนาการที่ดี รสชาติที่ถูกปากและใส่ใจในสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ เนสท์เล่ ได้พัฒนา Plant-based Meat จาก Pain Point ของผู้บริโภคที่ไม่อยากทาน plant-based food เพราะรสชาติไม่อร่อย ดังนั้นโจทย์สำคัญของ เนสท์เล่ คือการผลิต Plant-based Meat ที่มีรสสัมผัสที่คล้ายกับเนื้อสัตว์จริงมากที่สุด

โดยใช้พืชตระกูลถั่วเป็นวัตถุดิบหลัก เพราะมีโปรตีนสูง เป็นแหล่งของใยอาหาร ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ใช้สีที่สกัดจากบีทรูทและแครอทในการแต่งสีและเพิ่มเนื้อสัมผัสด้วยน้ำมันมะพร้าวคล้ายกับมีไขมันแทรก ทำให้รสชาติที่ใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์มากที่สุด ในรูปแบบ เนื้อเบอร์เกอร์, เนื้อบดละเอียด, ไก่ย่างรมควัน, ไก่ชุบเกล็ดขนมปัง และ มีทบอล โดยใช้โรงงานใน มาเลเซีย เป็นฐานการผลิต

สำหรับกลยุทธ์เข้าตลาดเมืองไทย จะเริ่มจากธุรกิจ B2B โดยจับมือกับ partner ร้านอาหารที่ให้ความสำคัญกับพัฒนาเมนูโปรตีนจากพืชและต้องการขยายเซกเมนต์อาหารทางเลือกสุขภาพในร้าน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมอาหารที่หลากหลาย  

Plant based Food_สลัดรวมชาร์กลิลล์ สไตล์ฮาวาย

ปัจุบันร้านอาหารในประเทศไทยมีการเติบโตของเมนูมังสวิรัติ 65% และ โปรตีนจากพืชเพิ่มขึ้นถึง 32% สอดคล้องกับผลสำรวจในต่างประเทศที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคชื่นชอบร้านอาหารที่นำเสนอเมนู Plant-based เพราะมีอาหารทางเลือกเพื่อผู้ที่รักสุขภาพและมองว่าภาพลักษณ์ของร้านดูทันสมัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม 

“ความท้าทายของตลาด Plant based เมืองไทย  คือ การเข้าถึงเนื่องจากยังไม่แพร่หลายและมีร้านอาหารบริการในสัดส่วนที่น้อย และรสชาติไม่ถูกปาก  ดังนั้นแผนการตลาดในช่วงแรกจะเน้นไปที่การจับมือกับผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ลิ้มลองอาหารจาก Plant based Meat ซึ่งจะทยอยให้บริการตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 นี้  

หลากหลายเมนู Plant-based Foods ที่รังสรรค์จากผลิตภัณฑ์ HARVEST GOURMET

และในอนาคตอาจมีการพิจารณาขยายธุรกิจไปยังเซกเมนต์ค้าปลีกหากผู้บริโภคให้การตอบรับที่ดี และมีความพร้อมที่นำ "ฮาร์เวสต์ กูร์เมต์"  กลับไปปรุงอาหารด้วยตัวเอง  รวมทั้งแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชชนิดอื่นนอกเหนือจากถั่วเข้ามาเสริมพร์อตและรองรับกลุ่มผู้บริโภคที่แพ้ถั่ว เพราะด้วยเรามีฐานการผลิตที่พร้อมอยู่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยาก”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: