ระนองเฮ ถอนป่าชายเลน “วราวุธ”ลั่นคืนที่ธนารักษ์ เปิดทางชาวบ้าน“เช่า”

05 มี.ค. 2564 | 07:08 น.

รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯ ปลดล็อกที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง เตรียมเสนอเพิกถอนที่ป่าสงวนฯ คืนธนารักษ์ เพื่อเปิดให้ประชาชนเช่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยฯ ลงพื้นที่แก้ปัญหาที่ดินป่าชายเลน ชุมชนเมืองระนอง ระบุชัดคณะทำงานสรุปเสนอเพิกถอนที่ป่าสงวนฯบางส่วน 484 ไร่ ส่งมอบพื้นที่คืนธนารักษ์ เพื่อเปิดให้ประชาชนเช่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป เป็นการปลดล็อกปัญหาที่ดิน หนุนแผนพัฒนาพื้นที่สู่ประตูการค้าฝั่งตะวันตกรับยุทธศาสตร์ SEC

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายเดือนก.พ.2564 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เดินทางลงพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อติดตามแนวทางแก้ปัญหาชุมชนเมืองระนองกว่า 900 ครัวเรือน อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ซึ่งเดิมรัฐเปิดให้เช่ารวม 3 แปลง เนื้อที่ 484 ไร่ ต่อมามีประกาศเป็นเขตป่าชายเลน ไม่ต่อสัญญาเช่า ประชาชนขาดหลักประกันที่อยู่อาศัยที่ชัดเจน เป็นอุปสรรคการตัดสินใจลงทุนพัฒนาพื้นที่ วราวุธ ศิลปอาชา

นายวราวุธ เผยว่า ได้ลงพื้นที่พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาการขอใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง ที่พี่น้องประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขปัญหามากว่า 30 ปี รัฐบาลและกระทรวงฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางคณะอนุกรรมการจัดที่ดินจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้น โดยมีอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานร่วม พร้อมตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหา

คณะทำงานได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการขอใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง เห็นควรให้ดำเนินการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย (บางส่วน) ท้องที่ ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระนอง ได้รับอนุญาตเดิม จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ 484 ไร่ ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านที่ประชุมอนุกรรมการจัดที่ดินให้ความเห็นชอบแล้ว

เส้นทางปัญหาสะพานปลาทับป่าระนอง

ระนองเฮ ถอนป่าชายเลน  “วราวุธ”ลั่นคืนที่ธนารักษ์  เปิดทางชาวบ้าน“เช่า”

“ยืนยันว่าวันนี้ขั้นตอนที่ทำให้พื้นที่นี้ถ่ายโอนให้กรมธนารักษ์ดูแล เพื่อให้ชาวระนองอยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกือบ 500 กว่าไร่ สามารถเช่าอย่างถูกกฎหมายจากทางราชการได้ เพราะว่าปัญหานี้มีมาช้านานหลายสิบปี วันนี้ขั้นตอนเหลือแค่เอาเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) และได้รับความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว กรมธนารักษ์สามารถดำเนินการได้เลย ขอฝากพี่น้องประชาชนที่ปัญหาของท่านได้รับการแก้ไข ท่านอยู่ในพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเป็นป่าชายเลน และแปรสภาพเป็นเมือง ขอความกรุณาดูแลป่าชายเลนที่เหลืออยู่ สนับสนุนปลูกป่าชายเลนทั่วประเทศ ช่วยกันอนุรักษ์ในสิ่งที่มีอยู่เพื่อคนรุ่นต่อไปด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว

ด้านนายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ ส.ส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาที่ดินเขตอุตสาห กรรมชายแดนระนอง โดยที่ชายทะเลที่ตั้งย่านสะพานปลา โรงงานห้องเย็น ขาดเอกสารสิทธิ์ และติดปัญหาจากการประกาศพื้นที่ทับซ้อน จนเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม เอกชนไม่กล้าตัดสินใจลทุนเพิ่ม เพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าการลงทุนในพื้นที่ชายแดน และการเติบโตของเมียนมา ทางใต้ได้

ระนองเฮ ถอนป่าชายเลน  “วราวุธ”ลั่นคืนที่ธนารักษ์  เปิดทางชาวบ้าน“เช่า”

ขณะที่ระนองมีภูมิประเทศต่างจากที่อื่น คือเป็นที่ภูเขา 70% และที่ราบเพียง 30 % พื้นที่มีเอกสารสิทธิมีน้อยและส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย ส่วนย่านอุตสาหกรรมมีการขยายเข้าไปก่อสร้างในพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม เนื่องจากติดชายทะเลสามารถค้าขายได้ง่าย และเป็นกิจการต่อเนื่องการประมง คือ สะพานปลาและโรงงานห้องเย็น ซึ่งที่ผ่านมามีการอนุโลมให้อยู่อาศัยและประกอบการได้ จนกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักของจังหวัด แต่ต่อมาทางราชการมีการประกาศทับซ้อนจนเป็นปัญหาเรื้อรังดังกล่าว

พื้นที่เรียกร้องให้แก้ปัญหามายาวนาน กระทั่งวาระประชุมครม.สัญจร เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2563 ที่จังหวัดภูเก็ต กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และป่าชายเลน แก่จังหวัดระนอง รวมจำนวน 3 ป่า จากนั้นได้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกับจังหวัดระนอง มาแก้ปัญหาชุมชนเมืองระนองในเขตป่าชายเลน จนได้ข้อสรุปให้ถอนสภาพป่าสงวนแห่งชาติบางส่วน เพื่อโอนที่ให้กรมธนารักษ์ไปดูแลเปิดให้ประชาชนเช่าที่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ การเปิดให้เช่าที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ประชาชนที่พักอาศัยหรือประกอบกิจการค้า สะพานปลา แปรรูปสัตว์นํ้า โรงงานห้องเย็น อยู่บนที่ดินที่มีสถานะถูกต้องชัดเจนตามกฎหมาย สามารถตัดสินใจลงทุนเพื่อพัฒนากิจการได้อย่างมั่นใจ ตอบรับเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดระนองเป็นประตูการค้าทางทะเลฝั่งตะวันตกตามยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) อย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลกำลังเดินหน้าแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน 4 เลน เส้นทางรถไฟสายใหม่จากชุมพรเชื่อมท่าเรือระนอง สนามบิน ยกระดับท่าเรือระนอง เป็นต้น

สำหรับภาคอุตสาหกรรม จ.ระนองปัจจุบันมีโรงงานแปรรูปสัตว์นํ้าและอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมงรวม 310 โรงงาน เงินลงทุน รวม 3,541 ล้านบาท มีจำนวนแรงงาน 7,264 คน

หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,658 วันที่ 4 - 6 มีนาคม พ.ศ. 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง