ราคามะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออกหนองวัวซอดิ่งเหว พ่อค้าให้แค่ก.ก.ละ 25 บาท เหตุผลผลิตดีทะลักออกตลาดพร้อมกันทั่วประเทศ ขณะที่การส่งออกไปต่างประเทศเจออุปสรรคการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จังหวัดเปิดพื้นที่ตลาด-ห้างเร่งระบายผลผลิต บุกตลาดออนไลน์ช่วยดึงราคา ชาวสวนมะม่วงขอความเป็นธรรมทางการค้า ร้องตรวจสอบกลไกตลาด
นายภูชิต อุ่นเที่ยว ประธานวิสาหกิจชุมชนคนรักษ์มะม่วงอุดรธานี เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สถานการณ์ของมะม่วงน้ำดอกไม้หนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ปี 2564 เวลานี้อยู่ในภาวะล้นตลาด จากสาเหตุหลัก 2 ประการคือ 1. ผลกระทบกระเทือนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 แต่ละประเทศออกมาตรการตรวจสอบคัดกรองเชื้อ ทำให้ถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่สามารถส่งออกต่างประเทศได้ ประกอบกับ 2.ผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ทั่วประเทศออกมาสู่ท้องตลาดพร้อม ๆ กัน ฉุดราคามะม่วงให้ตกต่ำลงกว่าที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อำเภอหนองวัวซอ มีพื้นที่การปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้มากที่สุดของจังหวัดอุดรธานี รองลงไปได้แก่ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และจังหวัดเลยบางส่วน ซึ่งต่างประสบปัญหาราคาตกต่ำเหมือนกันหมด บริษัทเอกชนที่รับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยตลาดหลักอยู่ที่จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และบางประเทศในยุโรป กำหนดราคารับซื้ออยู่ที่ ก.ก.ละไม่เกิน 25 บาทเท่านั้น ทำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนรักษ์มะม่วง อุดรธานี และกลุ่มผู้รับซื้อรายย่อยในพื้นที่ ต้องตั้งราคารับซื้อจากเกษตรกรผู้ปลูกได้เพียงกิโลกรัมละ 18 บาท ทำให้ชาวสวนมะม่วงเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะรายที่เปลี่ยนมาปลูกมะม่วงที่เพิ่งให้ผลผลิตปีแรก ก็มาเจอกับปัญหาราคาตกต่ำ
“ที่ผ่านมาพ่อค้าส่งออกที่มีอยู่ไม่กี่ราย เคยตั้งราคารรับซื้อในราคาสูงถึงก.ก.ละกว่า 50 บาท ถ้าเป็นมะม่วงนอกฤดู(ระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค.) เคยรับซื้อสูงถึงก.ก.ละ 100 บาทเศษ เนื่องจากผลผลิตมะม่วงมีน้อย ทำให้มีคนหันมาปลูกมะม่วงเพิ่มมากขึ้นจนราคาเริ่มปรับลดลง กระทั่งเมื่อสองปีมานี้ที่มะม่วงล้นตลาดจนราคาตกต่ำ หน่วยงานต่าง ๆ ต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ทุกปี”
นายภูชิตกล่าวอีกว่า เคยโทรศัพท์คุยกับเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ เล่าว่ามะม่วงน้ำดอกไม้ของไทยวางขายในตลาดต่างประเทศที่ราคาลูกละ 300 บาท ไม่ว่าจะเป็นช่วงในหรือนอกฤดู เป็นที่น่าสงสัยว่าทางผู้รับซื้อบริษัทเอกชนจับมือกันกำหนดราคาซื้อขายหรือเเปล่า ดังนั้น จึงอยากให้ทางราชการ หน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องการค้า-ขาย น่าที่จะยื่นมือเข้ามาทำการตรวจสอบการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย รวมถึงเกษตรกรผู้ผลิต ให้เกิดความยั่งยืน
ด้านนางสุภา ค้าคล่อง รักษาการเกษตรอำเภอหนองวัวซอ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า หนองวัวซอเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ปลูกมะม่วงมากที่สุดของจังหวัดอุดรธานี โดยมีพื้นที่ปลูกมะม่วงในปี 2564 ประมาณ 8,000 ไร่ แยกเป็นพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้วประมาณ 5,700 ไร่ และที่ยังไม่ได้แข้งการให้ผลผลิตอีกประมาณ1,500 ไร่ ประมาณการว่าปีนี้จะมีผลผลิตมะม่วงออกมาทั้งฤดูประมาณ 6,000 ตัน
พื้นที่เพาะปลูกหลัก 2 ตำบล คือ ต.กุดหมากไฟ และ ต.อุบมุง ส่วนใหญ่จะเป็นมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ คุณภาพส่งออก ตลาดหลักคือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และบางประเทศในกลุ่มประเทศยุโรป แต่ปีนี้มีปัญหาเกิดภาวะมะม่วงล้นตลาด จากที่มีผลผลิตทั่วประเทศออกตลาดพร้อมกันมากกว่าปีที่แล้ว และอีกสาเหตุจากที่ยังไม่สามารถส่งออกได้ เนื่องจากติดมาตรการรักษาความปลอดภัยเชื้อโควิค-19
ทางจังหวัดรับทราบปัญหาและร่วมกันแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ ภาครัฐโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัด จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งของตลาดร่มเขียว ที่จัดไว้ให้เกษตรกรนำพืชผลทางการเกษตรไปวางขาย ที่ถนนหน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดทุกวันศุกร์ ในราคาก.ก.ละ 35 บาท ซื้อ 3 ก.ก. 100 บาท
นอกจากนี้ได้ติดต่อห้างสรรพสินค้าทุกแห่งในจังหวัด เช่น เซ็นทรัล แม็คโคร บิ๊กซี โลตัส ขอเปิดพื้นที่ส่วนหนึ่งนำเอามะม่วงน้ำดอกไม้ไปวางขาย เพื่อช่วยกระจายตลาดในพื้นที่ พร้อมจัดกิจกรรมช็อป..ชิม มะม่วงน้ำดอกไม้หนองวัวซอขึ้น เช่น ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-4 เม.ย. 2564 ที่ห้างสรรสินค้าเซ็นทรัล อุดรธานี และระหว่าง 3-7 เม.ย. 2564 ที่ห้างบิ๊กซี สาขาสี่แยกสันตพล เป็นต้น มีทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้สด และที่แปรรูปเป็นหวาน อาหารว่างหลากหลายรูปแบบ
ด้านสำนักงานเกษตรอำเภอหนองวัวซอ ได้ทำการตลาดออนไลน์ จัดส่งให้ประชาชนที่ต้องการซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้หนองวัวซอไปรับประทานทั่วประเทศ ภายใต้กิจกรรมชื่อ ”ซื้อสินค้าเกษตรกรไทย เกษตรอยู่ได้ ประเทศไทยอยู่รอด” โดยสามารถสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่ “ ทีมจ้างงาน 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฏีใหม่” โทรศัพท์ 092-598-8617 หรือ 098-852-4826 หรือเพจเฟสบุก ว้าว.หนองวัวซอ
หน้า 17 ฉบับที่ 3,664 วันที่ 25 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2564