"การบินไทย"เปิดค่าจ้างผู้ทำแผน-ที่ปรึกษารับเหนาะๆ386ล้านบาท

29 มี.ค. 2564 | 03:20 น.

"การบินไทย"เปิดค่าจ้างทำแผน-ที่ปรึกษา5เดือนรับเหนาะๆ386 ล้านบาท 2ผู้บริหารแผน"ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ "กับ"จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล" รับค่าตอบแทนไม่เกินปีละ 5 ล้านบาทต่อคน

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทการบินไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าจากแผนฟื้นฟูกิจการฯ บริษัท การบินไทย ฉบับเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2564  ระบุเรื่องของค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับกระบวนการฟื้นฟูกิจการ การจัดทำแผนฟื้นฟู และแผนธุรกิจ

โดยระบุว่า การจัดทำแผนฟื้นฟูการบินไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (วันที่2 ต.ค.2563-2 มี.ค.2564) พบว่าการบินไทยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 388 ล้านบาท ไม่รวมค่าจ้างที่คำนวณจากผลสำเร็จของงาน หรือ Success Fees ประกอบด้วย

1.คณะผู้ทำแผนซึ่งเป็นกรรมการของการบินไทย จำนวน 6 คน ได้แก่ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ,นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล ,นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ,นายบุญทักษ์ หวังเจริญ และนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์  มีค่าตอบแทนการทำงานคนละ 50,000 บาทต่อเดือน และเบี้ยประชุมคนละ 30,000 บาทต่อครั้ง โดยให้ได้รับไม่เกินหนึ่งครั้งต่อเดือน ซึ่งเป็นอัตราค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมเดิมของผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการของการบินไทย

ส่วนนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร นั้น ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) ของการบินไทย คณะผู้ทำแผนจึงมีมติให้นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ได้รับค่าตอบแทนในอัตราค่าตอบแทนในตำแหน่งดังกล่าว จำนวน 800,000 บาทต่อเดือนแต่นายชาญศิลป์ แสดงเจตนาขอรับคำตอบแทนเพียง 400,000 บาทต่อเดือน และไม่ขอรับค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมในฐานะผู้ทำแผน

2.ผู้ทำแผนซึ่งเป็นบริษัท คือ บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ทำแผน และได้ร่วมจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ และร่วมบริหารกิจการและทรัพย์สินของการบินไทยในระหว่างการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ มีขอบเขตการทำงานตามสัญญาและค่าบริการดังนี้

-การจัดทำและเสนอแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งรวมถึงการให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาการบินไทยในการไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผน การศึกษาและวิเคราะห์สถานะกิจการ เงินทุนหมุนเวียน ความต้องการกระแสเงินสด

ประมาณการทางการเงิน เพื่อจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการตลอดจนการประสานงานและทำงานร่วมกับที่ปรึกษากฎหมายในกระบวนการไต่สวน และโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ การจัดกลุ่มเจ้าหนี้ เงื่อนไขการได้รับชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ มีค่าธรรมเนียมการให้บริการในส่วนดังกล่าว เป็นเงินจำนวน 22,000,000 บาท

-การบริหารจัดการกิจการและทรัพย์สินของการบินไทยร่วมกับคณะผู้ทำแผน รวมถึงการให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงกระบวนการต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทรัพย์สินของการบินไทย โดยมีค่าธรรมเนียมการให้บริการในส่วนงานนี้ เป็นเงินจำนวน 15,000,000 บาทต่อเดือน ซึ่งรวมกว่า5เดือนได้ค่าตอบแทนรวม 75 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ระยะเวลานับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนจนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผน มีระยะเวลาเกินกว่า 9 เดือน มีค่าธรรมเนียมการให้บริการหลังจากนั้นในอัตรา 12,000,000 บาทต่อเดือน จนกว่าศาลจะมีคำสั่งแต่งตั้งผู้บริหารแผน

3.ค่าที่ปรึกษาในการปฏิบัติงานของการบินไทย ได้แก่ พล.อ.อ.อำนาจ จีระมณีมัย และพล.อ.อ.ชาญยุทธ ศิริธรรมกุล ซึ่งเป็นกรรมการของการบินไทยผู้มีความรู้และประสบการณ์ทางด้านการบริหาร จัดการการบินและการซ่อมบำรุงอากาศยานให้เป็นที่ปรึกษาในการปฏิบัติงาน เพื่อช่วยเหลือและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจการบินในระหว่างการฟื้นฟูกิจการ มีค่าตอบแทนจำนวน 50,000 บาทต่อเดือนต่อคน ซึ่งรวม 5 เดือนอยู่ที่ 5 แสนบาท

 

4.ค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย คือ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด โดยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาและดำเนินการทางกฎหมายในกระบวนการฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ซึ่งแบ่งขอบเขตการทำงานออกเป็น 8 ส่วนงานได้แก่

-กระบวนการพื้นหูกิจการและคดีความ โดยให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ข้อเสนอแนะ วิเคราะห์และดำเนินการใด ๆ ทางกฎหมายในกระบวนการพื้นฟูกิจการของการบินไทย รวมทั้งให้คำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการจัดทำแผนพื้นฟูกิจการ ให้คำปรึกษา วางแผน และแก้ไขปัญหาในธุรกิจทางด้านกฎหมาย ศึกษาและวิเคราะห์ข้อกฎหมาย

แนวทางและข้อจำกัดต่างๆในการยื่นคุ้มครองทรัพย์สินของการบินไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ตลอดจนพิจารณาและวิเศราะห์ข้อกฎหมาย แนวทางและข้อจำกัดในการยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาสล้มละลายในประเทศสหรัฐอเมริกาตาม U.S. Bankruptcy Code, Chapter 11 และ/หรือ Chapter 15

-การจัดอบรมให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของการบินไทยเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบินไทย เพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานของการบินไทยทราบถึงกระบวนการต่าง ๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อการสื่อสารไปยังบุคคลภายนอกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามกฎหมาย

เช่น การจัดอบรมเกี่ยวกับภาพรวมของกระบวนการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลาย ระบบ E-Filingในการยื่นคำขอรับชำระหนี้เพื่อให้พนักงานสามารถช่วยเหลือเจ้าหนี้ในการยื่นคำขอรับชำระหนี้ผ่านระบบ E-filing ได้,หลักเกณฑ์การพิจารณาคำขอรับชำะหนี้และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องสำหรับคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่มีมูลหนี้ไม่ชับซ้อน เป็นต้น

-การปรับโครงสร้างทางการเงิน การเจรจากับเจ้าหนี้และการตัดหาเงินทุนใหม่ โดยเป็นที่ปรึกษากฎหมายในการเจรจากับเจ้าหนี้ และ/หรือคู่ค้า คู่สัญญาต่าง ๆ ของการบินไทยทั้งในและต่างประเทศ

รวมถึงเสนอกลยุทธ์ ข้อเสนอแนะและข้อควรระวังในการเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ และ/หรือคู่สัญญา คู่ค้าต่างๆ  ตลอดจนให้คำปรึกษาทางกฎหมายในการจัดหาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเป็นแนวทางการหาสภาพคล่องตามแผนฟื้นฟูกิจการ

-กระบวนการฟื้นฟูกิจการและคดีความ ,การจัดอบรมให้แก่ผู้บริหารและพนักงานของการบินไทยเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบินไทย ,การปรับโครงสร้างทางการเงิน การเจรจากับเจ้าหนี้และการจัดหาเงินทุนใหม่ ,การจัดทำ/การแก้ไขระเบียบภายในองค์กร

-การจัดทำการแก้ไขระเบียบภายในองค์กร โดยจัดทำ แก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ระเบียบ และข้อบังคับภายในต่าง ๆ หรือจัดเตรียมร่างคำสั่งภายในที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับกฎหมาย รวมถึงการจัดอบรมเพื่อให้พนักงานทราบถึงวัตถุประสงศ์ในการดำเนินการและอธิบายระเบียบและข้อบังคับภายในของการบินไทยที่ได้มีการปรับปรุงแก้ไข

-แรงงานและทรัพยากรบุคคล โดยให้คำแนะนำ แนวทาง กลยุทธ์ ข้อเสนอแนะและข้อควรระวังในแง่มุมทางกฎหมายด้านแรงงานทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการศึกษาและวิเคราะห์แนวทางการปรับโครงสร้างองค์กร ตลอดจนเข้าร่วมในกระบวนการเจรจาต่อรองและการดำเนินการของพนักงานของการบินไทยและ/หรือสหภาพแรงงานของพนักงานของการบินไทย และข้อพิพาทระหว่างพนักงานของการบินไทยและ/หรือสหภาพแรงงานกับการบินไทย

-การปรับโครงสร้างทุน โครงสรัางองค์กร กฎเกณฑ์ตลาดทุน การควบรวมกิจการ (M&A) โดยรับผิดชอบงานให้คำปรึกษา วิเคราะห์ วางแผนวางกลยุทธ์ทางกฎหมายเพื่อปรับโครงสร้างทุน การลดทุน การเพิ่มทุน การออกหุ้นกู้หรือหุ้นกู้แปลงสภาพ

บริษัท เบเคอร์ กำหนดค่าที่ปรึกษาเป็นรายเดือน (Fixed Fee) โดยค่าที่ปรึกษาที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2563 นั้น บริษัทเบเคอร์ฯ คิดค่าที่ปรึกษา เป็นเงินจำนวน 14,000,000 บาท และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2563 ถึงวันที่ 30 เม.ย.2564 บริษัทเบเคอร์ฯ คิดค่าที่ปรึกษาเป็นรายเดือน เดือนละ 26,000,000 บาท

 

5.ค่าจ้างที่ปรึกษาด้านธุรกิจการบิน 75 ล้านบาท ไม่รวม ‘Success Fees’บริษัทฯ มีการว่าจ้างที่ปรึกษาด้านธุรกิจการบิน คือ บริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด (McKinsey & Company (Thailand) Co, Ltd.) เพื่อจัดทำแผนการดำเนินธุรกิจด้านการบินของการบินไทยโดยละเอียด ให้แผนธุรกิจมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างผลกำไรให้แก่การบินไทยได้ และมีความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้บริษัทแมคคินซี่ฯได้วิเคราะห์และวางแผนเส้นทางบินและฝูงบิน (Fleet, Network and Commercial) รวมทั้งวางแผนและวางกลยุทธ์ในการกลับมาให้บริการด้านการบินของการบินไทยให้สอดคล้องกับเส้นทางการบินและฝูงบินที่ได้วางแผนไว้

รวมถึงการวิเคราะห์แนวทางการดำเนินธุรกิจการบินและหน่วยธุรกิจย่อยต่างๆ ของการบินไทย เป็นต้น โดยบริษัทแมคคินซี่ฯ คิดค่าธรรมเนียมการให้บริการตามสัญญาว่าจ้างแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

-ค่าจ้างแบบคงที่ (Fixed Fees) จำนวน 75,000,000 บาท

-ค่าจ้างที่คำนวณจากผลสำเร็จของงาน (Success Fees) จำนวนประมาณ 0 ถึง 489,000,000 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับผลสำเร็จของการดำเนินงานของบริษัทแมคคินซี่ฯ ในส่วนของค่าจ้างที่คำนวณจากผลสำเร็จของงาน (Success Fees) นั้น จะคำนวณจาก 2 กรณี ได้แก่

(ก) 5% ของมูลค่าของเงินได้ทั้งหมด หรือที่ได้เกิดจากการปฏิบัติงานของบริษัทแมคคินซี่ฯ ภายในขอบเขตการทำงาน ซึ่งการบินไทยจะเริ่มชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าวให้แก่บริษัทแมคคินซี่ฯ ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.2563 เมื่อการบินไทยได้รับเงินจากการทำงานที่เกิดขึ้นของบริษัทแมคคินซี่ฯ

(ข) การคำนวณค่าจ้างจากผลสำเร็จของงานแบบ Incentive ซึ่งรวมถึงค่าตอบแทนความสำเร็จของงานที่สัมพันธ์กับการก่อให้เกิดรายได้ค่าตอบแทนความสำเร็จของงานที่สัมพันธ์กับอัตราค่าเช่า และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องที่ลดลง

6.ค่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ทำแผนในการจัดทำประมาณการทางการเงินและแบบจำลองทางการเงิน ( Financial Projection and Financial Model) เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ

รวมถึงจัดเตรียมรายละเอียด กระบวนการและแผนปฏิบัติงาน (Action Plan)ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือการบินไทยและผู้ทำแผนในการปรับโครงสร้างทางการเงิน โครงสร้างเงินทุนและผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดทุนการเพิ่มทุน และ/หรือการแปลงหนี้เป็นทุนเพื่อประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ตลอดจนนำเสนอและ/หรือรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการต่างๆ เป็นต้น

บริษัทเกียรตินาคินภัทรฯ คิดค่าบริการของที่ปรึกษาทางการเงินเป็นรายเดือน เดือนละ 8,000,000 บาท (แปดล้านบาทถ้วน) (ไม่รวมค่าใช้จ่ายและภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.2564 ถึงวันที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนพื้นฟูกิจการหากเกิดก่อนวันที่ 19 ก.ค.2564

โดยหากงานแล้วเสร็จหรือการสิ้นสุดของสัญญาอยู่ในระหว่างเดือนใดๆ การเรียกเก็บค่าบริการจะเป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนวันที่ได้ดำเนินการของวันในเดือนนั้น ซึ่งหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัดได้เข้ามาทำงาน2เดือน เบื้องต้นได้รับค่าจ้างในส่วนนี้ไป16ล้านบาท

แหล่งข่าวยังกล่าวต่อว่าน อกจากค่าใช้จ่ายของผู้ทำแผนฟื้นฟูที่จบสิ้นกระบวนการไปแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายของผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทยจำนวน2คน คือ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ และ จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล จะได้รับค่าตอบแทนจากการเป็นผู้บริหารแผนรวมกันไม่เกินปีละ 5 ล้านบาทต่อคน ที่จะเป็นผู้บริหารอแผนต่อไป หากในที่12พ.ค.นี้แผนฟื้นฟูของการบินไทยได้รับการโหวตการเจ้าหนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: