นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ ซีอาร์จี มีผลประกอบการ10,100 ล้านบาท ลดลงจากปี2562 ถึง 17 % ขยายสาขาเพิ่มเติมได้เพียง 30 สาขา ส่งผลให้ตลอดปี ซีอาร์จี มีสาขารวมกัน 1,100 สาขา
ส่วนการขยายธุรกิจต่างประเทศ ในปี2563 ซีอาร์จี ได้ร่วมทุนกับนกับพรา์ทเนอร์ขยายสาขาร้านคาเฟ่อะเมซอน ในประเทศเวียดนาม จำนวน 5 สาขา
อย่างไรก็ตามแม้ภาพรวมธุรกิจส่วนใหญ่จะไม่เป็นไปตามแผน แต่ในส่วนของบริการ เดลิเวอรี่ มีอัตราการเติบโตมากถึง150% จากปี2562 ทำรายได้ 2,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดหวังว่า ปีนี้สถานการณ์ต่างๆจะดีขึ้น จากการกระจายวัคซีน และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง
ในปีนี้ซีอาร์จี ตั้งเป้ารายได้12,000 ล้าน เติบโต 20% และขยายสาขาเพิ่มขึ้นจากเดิม 200 สาขา รวม 1,300 สาขา โดย ซีอาร์จี มีแผน TRANSFORMFOR THE FUTURE ภายใต้ 5 กลยุทธิ์ คือ
1.New way to serve cutomers : ผนึกกำลังร้านอาหาร 16 แบรนด์ ชูจุดขายใหม่ Shop in Shop- Cross Sale โดยอาศัยจุดแข็งด้านเครือข่ายร้านอาหารทั้ง 16 แบรนด์ กว่า 1,100 สาขา พนักงาน10,000 คน และเมนูที่มีมากกว่า 800 เมนู โดยเน้นรูปแบบร้านแนวใหม่ Shop in Shop ซึ่งนำร่องเปิดเคาน์เตอร์อาริกาโตะร่วมกับร้านมิสเตอร์ โดนัท
และกลยุทธ์ Cross Sale ของทุกแบรนด์ในเครือ เช่น นำเมนูจาก บราวน์ คาเฟ่ (Brown Café) ขายในร้านคัตสึยะเพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ๆและตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะขยายสาขาที่มีบริการ Cross Sale ได้มากกว่า 400 สาขา
การผนึกกำลังกันของแบรนด์ในเครือเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ อาทิ ล่าสุดแบรนด์ไทยเทอเรส และ อร่อยดี นำร่องขานรับนโยบายปลดล็อกกัญชา ร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารมากกว่า 10 เมนู ที่ปรุงจากใบกัญชาออร์แกนิก และมีแผนขยายไปยังแบรนด์อื่น ๆ ในเครือซีอาร์จีต่อไป
2. New way to expand : เน้นการมองหาพื้นที่ใหม่ๆ โดยให้ความสำคัญกับการขยายสาขานอกห้างสรรพสินค้า ทั้งนี้เตรียมเปิดตัว Mobile Box Model ในสถานีบริการน้ำมันและมินิคีย์ออส (Mini Kiosk) ต่อจากโมเดลร้านเดลโก้ (Delco) ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้และขยายสาขาได้คล่องตัว รวมไปถึงโมเดลแฟรนไชส์ ซึ่งปีนี้จะได้เห็นในหลายๆแบรนด์
3. Delivery & Cloud Kitchen : โดยวางเป้าหมายจะขยายจุดบริการดีลิเวอรี่ครอบคลุมมากที่สุด ส่วนคลาวด์คิทเช่นจะขยายครบ 15 แห่งภายในปีนี้ และปูพรมทั่วประเทศอย่างน้อย 50 แห่ง ภายในปี 2566 โดยขยายสาขามากกว่า1 สาขาต่อเดือน จากปัจุบันที่มีการขยายสาขาเฉลี่ยเดือนละ 1 สาขา
4.Go digital&Omnichanel : มุ่งโฟกัส O2O หรือ Online to Offline (ออนไลน์ทูออฟไลน์) เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านอีคอมเมิร์ซและระบบแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำต่าง ๆ เช่น JD Central,Shopee และ LAZADA
บริษัทมีแผนขยายสัดส่วน New Economy เป็น 30% ตั้งเป้ารายได้ 3,000ล้านจาก 2,000 ในปี2563 สืบเนื่องจากยอดเดลิเวรี่ที่เติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ ในร้านที่เปิดใหม่ อาทิเช่นร้าน salad factory ซึ่งเติบโต 400 % เฉพาะช่องทางออนไลน์
5.New Brand & Business: โดยปีนี้ ซีอาร์จีจะมีแบรนด์ร้านอาหารใหม่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2-3 แบรนด์ และยังเปิดกว้างความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์รายใหม่เพราะถือเป็นยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจที่สามารถฝ่าวิกฤตโควิดและประสบความสำเร็จ ทั้งการผลักดันยอดขายปีที่ผ่านมาเติบโตมากกว่า 2 เท่า แบบ win-win ทั้งสองฝ่าย
ทั้งนี้บริษัทได้วางงบทุน 1,000 ล้าน โดยใช้ในการขยายสาขา 600-700 ล้านบาทและรีโนเวทสาขาเดิม 300 ล้านบาท และงบสำหรับการตลาด 3%
“ในปี2562ที่ผ่านมาภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร มีมูลค่า 4แสนล้าน โดยในปีที่ผ่านมามูลค่าลดลงราว 10% แม้ว่า CRG จะมียอดขายที่ลดลงตามตลาด แต่คาดว่าปีนี้รายได้จะกลับไปใกล้เคียงกับปี 2562 โดยปีนี้เรา เราเปิดกว้างทางธุรกิจและพร้อมที่จะต้อนรับ partner ใหม่ๆเข้ามาร่วมกับแบรนด์
ในขณะเดียวกันก็ต่อยอด เน็ตเวิร์คกว่า1000 จุดเพื่อสนับสนุนบริการเดลิเวอรี่เพิ่มมากขึ้น เราเชื่อว่าเราจะกลายเป็นผู้นำในตลาดในช่องทางนี้ได้
อีกหนึ่งเทรนด์ที่สำคัญ คือ การนำกัญชามาเป็นส่วนหนึ่งในเมนู ในร้าน ไทยเทอเรส ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าแม้ยังไม่มีการทำการตลาดจริงจัง ในอนาคต อาจขยายไปที่เซกเมนต์ขนมขบเคี้ยว ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องของการชง-กัญชาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เรามีสินค้าที่ขายให้กับเยาวชน จึงต้องระมัดระวังพอสมควร
ในช่วง 2 เดือนแรกของปี ธุรกิจของเรายังคงทรงตัว และเริ่มดีขึ้นในเดือนมีนาคม และหวังว่าช่วงเดือนเมษายนที่จะมีเทศกาลสงกรานต์อะไรๆก็คงจะดีขึ้น”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :