ก้าวเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 3 อย่างเป็นทางการสำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด 19 โดยมี ยอดผู้ป่วยใหม่ 405 ราย ยอดสะสม 3,0130 ณ วันที่ 8 เม.ย 2564
จุดเริ่มต้นของการระบาดครั้งนี้คาดว่ามาจากคลัสเตอร์ ผับ ทองหล่อ ที่ทำให้คนดังติดเชื้อกันหลายคน โดยสรุปผลการตรวจเชิงรุกสถานบันเทิงย่านทองหล่อระหว่างวันที่ 3 - 8 เม.ย. 64 มีผู้เข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 3,112 ราย พบเชื้อ (+) จำนวน 399 ราย ไม่พบเชื้อ (-) จำนวน 1,638 ราย อยู่ระหว่างรอผล จำนวน 1,075 ราย ข้อมูล ณ วันที่ 8 เม.ย. 64
ส่งผลให้ เมื่อวันที่ 8 เม.ย 2564 โรงพยาบาลเอกชนจำนวนมาก ต่างพร้อมใจกันประชาสัมพันธ์ “งด” ให้บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยโรงพยาบาลเอกชนได้ให้เหตุผลไปในทิศทางเดียวกันว่า โรงพยาบาลไม่พร้อม เตียงเต็ม และน้ำยาตรวจมีไม่เพียงพอ ต้องเช็ควันต่อวัน ในการเปิดให้บริการ สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจอยู่ที่ 3,000-3,500 บาท
ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวมีขึ้นภายหลังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้แจ้งสิทธิแก่ “ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกคน” ทุกระบบหลักประกันสุขภาพ สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชนทุกแห่ง โดย สปสช.จะเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้
หากย้อนไปเมื่อการระบาดระลอกที่ 2 กระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้โรงพยาบาลที่ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อ จะต้องรับเป็นผู้ป่วยในรักษาของสถานพยาบาลนั้น แต่หากผู้ป่วยต้องการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิ์ให้จัดระบบส่งต่อผู้ป่วยโดยมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างเคร่งครัด และห้ามมิให้ส่งต่อผู้ป่วยโดยรถสาธารณะ หรือปล่อยให้ผู้ป่วยเดินทางไปด้วยตนเอง
ซึ่งอาจนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลของการ งด ให้บริการครั้งนี้ เพราะหลายโรงพยาบาล กังวลว่าหากตรวจพบผู้ติดเชื้อจะต้องรับเข้าการรักษาทันที ในขณะที่ เตียง และบุคลากรไม่เพียงพอให้บริการ
นอกเหนือ เหตุผลข้างต้น บางโรงพยาบาล ยังพบบุคลากรทางการแพทย์สัมผัสโรคจากผู้ป่วย และติดเชื้อโควิด ทำให้ต้องงดให้บริการหรือปิดบริการบางส่วน อาทิเช่น รพ. ราชวิถี ซึ่งแพทย์ประจำบ้านของกลุ่มงานศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี ติดเชื้อไวรัสโคโรนา จำนวน 1และมีบุคลากรผู้สัมผัสเสี่ยงสูงติดเชื้อเพิ่ม 10 ราย
ทางด้าน กองทัพเร่งสำรวจปรับหน่วยทหารจัดตั้ง รพ.สนาม เบื้องต้น 3,000 เตียง เพื่อรองรับสถานการณ์ COVID-19 หากสถานการบานปลายและโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ โดยทุกเหล่าทัพ อยู่ระหว่างเร่งจัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลสนาม โดยเตรียมพื้นที่หน่วยทหาร 10 แห่ง พร้อมบุคลากรแพทย์ทหาร สนับสนุนจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามกว่า 3,000 เตียง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ขณะที่ ทางกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมโรงพยาบาลสนามไว้ 2 แห่ง คือโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ พุทธมณฑลสาย 3 รองรับได้ 150-200 เตียง และโรงพยาบาลผุ้สูงอายุบางขุนเทียน รองรับได้ 500 เตียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :