นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.)กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ให้ความสำคัญในการรักษาความเป็นธรรมให้ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงจำเป็นต้องดูแลประชาชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงวิกฤติเช่นนี้ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ หน้ากากอนามัย หน้ากากทางเลือก เจลแอลกอฮอล์ และสินค้าเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนและป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาส และต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน โดยเฉพาะร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ต้องปฏิบัติตามกฎเหล็กอย่างเคร่งครัด โดยห้ามจำหน่ายบุหรี่/สุรา/เบียร์ให้แก่ผู้ถือบัตร ห้ามยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ห้ามรับ/แลกเป็นเงินสด ห้ามเอาเปรียบฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาและขายเกินราคาที่กำหนดโดยเด็ดขาด และห้ามบังคับการซื้อ/ขายสินค้า ถ้าหากมีการตรวจพบการกระทำผิด จะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและแจ้งกรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการเพื่อเรียกคืนเครื่องอีดีซี หรือยกเลิกการใช้แอพพลิเคชั่นด้วย
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีที่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าเกินแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากพบประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด