นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากผลกระทบของโควิดระลอก3 ซึ่งมีการติดเชื้อภายในประเทศวันละเกิน1.5 พันคนขึ้นไป และวันนี้ (23 เมษายน2564)ทะลุขึ้นมาถึง 2 พันแล้ว ก็ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ รวมถึงโควิดระลอก2 ที่ส่งผลกระทบมาก่อนเมื่อต้นปี คือในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำเป็นต้องปรับลดเป้าหมายการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปี2564
โดยปรับลดเป้าหมายรายได้จากทั้งต่างชาติเที่ยวไทยและไทยเที่ยวไทยในปี2564 จาก 1.2 ล้านล้านบาท เหลือ 8.5 แสนล้านบาท หายไป3.5 แสนล้านบาท
- นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอยู่ที่ 4 ล้านคน สร้างรายได้ 3 แสนล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 6.5 ล้านคน สร้างรายได้ 3.47 แสนล้านบาท
- คนไทยเที่ยวในประเทศอยู่ที่ราว 100-120 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 5.5 แสนล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8.7แสนล้านบาท
ส่วนไทม์ไลน์การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยยังคงเป็นไปตามแผนเดิม
- เริ่มแล้วในเฟสแรก คือตั้งแต่ 1เม.ย.-มิ.ย.64 ที่ 6 จังหวัดนำร่องที่อยู่ในแอเรีย ควอรันทีน หากไปพักในโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ASQ,ALQ,กอล์ฟ ควอรันทีน,วิลล่า ควอรันทีน หากเป็นต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว กักตัวในโรงแรม 7 วัน
- เฟส2 วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย. นำร่องที่โครงการภูเก็ต แซนด์บล็อก เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว สามารถเดินทางมาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยประชาชนในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนคิดเป็น 70% ของประชากร ซึ่งมีการส่งวัคซีนเข้าไปและอยู่ระหว่างการฉีดวัคซีนรวมแล้ว 2 แสนโดส และนายกรัฐมนตรีรวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันที่จะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมลงให้ได้ตามเป้าหมายฉีดวัคซีนครบ 70% ของประชากร เรามั่นใจว่าทำได้แน่นอน
- เฟส3 วันที่1 ตุลาคม-31 ธันวาคม ก็จะนำร่องใน 6 จังหวัด ภายใต้เงื่อนไขคนในพื้นที่ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 70% ของประชากร จึงเป็นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว สามารถเดินทางมาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกักตัวเช่นกัน
ข่าวเกี่ยวข้อง: