นายสมศักดิ์ จันทร์ส่อง รองกรรมการผู้จัดการ-สายงานพาณิชย์ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือ TOA เปิดเผยว่า TOA ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เต็มรูปแบบ เพื่อสร้างให้เป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่มีความแข็งแรงสร้างรายได้และการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร
โดยปัจจุบันมีการรุกใน 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ 1. ธุรกิจขนมขบเคี้ยว (สแน็ค) ถั่วและขนม “มารูโจ้” 2. ธุรกิจเครื่องดื่มสมุนไพร แบรนด์ “SuperFight” ซึ่งเปิดตัวออกทำตลาดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา 3. ธุรกิจนมพร้อมดื่ม อาหารและเครื่องดื่ม แบรนด์ “ฮอกไกโด” ซึ่งหลังจากที่บริษัทเข้าซื้อกิจการจากบริษัท ฮอกไกโด โมริโมโตะ จำกัด เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
ได้จัดตั้ง 2 บริษัทใหม่ คือ บริษัท ฮอกไกโด ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด และบริษัท ฮอกไกโด อินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ จำกัด โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตด้วยการขยายสาขาให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางขายและการทำตลาด ตลอดจนการพัฒนาและเพิ่มโปรดักต์ใหม่ ๆ เข้ามาจำหน่ายมากขึ้น
รวมทั้งการขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์โดยเน้นการลงทุนไม่สูง มีระบบหลังบ้านดี พร้อมหน่วยงานสนับสนุน เบื้องต้นมี 2 รูปแบบ คือ คีออส ขนาด 4 ตรม. ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 2.5 แสนบาท และ ช้อป ขนาด 6-20 ตรม. ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น ประมาณ 3.5 แสนบาท (ไม่รวมค่าก่อสร้างร้าน)
ขณะนี้ได้มีการวางแผนและเตรียมการทั้งระบบการให้บริการหน้าร้านและระบบหลังบ้าน อุปกรณ์ และการอบรมการขาย เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของร้านให้เป็นในทางเดียวกัน เริ่มเปิดรับสมัครแฟนไชส์ในเดือนเมษายนนี้
“เบื้องต้นจะเน้นเปิดรับแฟรนไชส์ในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลักๆ และต่อไปอาจจะมีการลงทุนสร้างจุดกระจายสินค้าในต่างจังหวัด เพื่อรองรับการเปิดสาขาที่มากขึ้นในต่างจังหวัด ที่สำคัญยังได้จัดโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมแฟรนไชน์ช่วยเหลือผู้ประกอบการอีก 50% ใน 100 สาขาแรกอีกด้วยและคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 12-18 เดือน”
การเปิดตัวแบรนด์ฮอกไกโดโฉมใหม่ คือเป็นการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ คือปรับเปลี่ยนทั้งโลโกใหม่ ที่ทันสมัย จดจำหน่าย ปรับดีไซน์ใหม่ ในลุคมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น โดยปรับโฉมใหม่ไปแล้ว 4 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล บางนา, BTS ศาลาแดง, โลตัส ศรีนครินทร์, โลตัส สุขุมวิท50 (อ่อนนุช) ทั้งนี้พบว่าหลังการรีแบรนด์ใหม่ มียอดขายเพิ่มขึ้นราว 40%
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายไลน์สินค้าให้มีความหลากหลาย อาทิ นมพาสเจอร์ไรซ์พร้อมดื่ม, นมอัดเม็ด, โยเกิร์ตบรรจุขวด, กลุ่มน้ำผลไม้ , เมนูสมูทตี้ และเบเกอรี่ เป็นต้น และอนาคตจะนำผลิตภัณฑ์พร้อมดื่มไปวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นด้วย
โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะมียอดขายในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มราว 600 ล้านบาทในปีนี้ พร้อมกับเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มธุรกิจนี้ให้เป็น 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนราว 8-9% ภายใน 3 ปีข้างหน้า
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,674 วันที่ 29 เมษายน - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
‘TOA’ปั้นโมเดลธุรกิจใหม่‘WHO Service’