การนัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ในคดีหมายเลขแดงที่ ฟฟ 20-2563 ของศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีเจ้าหนี้ยื่นคำร้องคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการและศาลล้มละลายกลาง รับไว้ จำนวน 2 ฉบับ และกำหนดให้การบินไทยนัดฟังคำสั่งศาลเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
แหล่งข่าวระดับสูงจากกลุ่มเจ้าหนี้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เจ้าหนี้ที่ได้เข้ามายื่นคัดค้านแผนฟื้นฟูของการบินไทย ในวันที่ศาลล้มละลายกลางนัดพิจารณาแผนนั้น เป็นเจ้าหนี้รายย่อย 2 ราย ได้แก่ 1. นางสาวจันทร์เพ็ญ บุญชวย เจ้าหนี้รายที่ 13041 เป็นเจ้าหนี้กลุ่ม 8 หรือเจ้าหนี้พนักงาน ซึ่งมีมูลหนี้อยู่ที่ 196,984.23บาท จากเจ้าหนี้กลุ่มนี้ที่มีทั้งหมดรวม 499 ราย รวมมูลหนี้อยู่ที่ 227 ล้านบาท
โดยเจ้าหนี้พนักงานรายนี้ ยื่นคัดค้านแผนในส่วนของผู้บริหารแผน 2 คน คือ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เนื่องจากสงสัยเกี่ยวกับการมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการตั้งสายการบินไทยสมายล์ ในช่วงที่นายปิยสวัสดิ์ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย
รวมถึงคัดค้านนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ผู้ทำแผนฟื้นฟูและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย ในประเด็นที่มองว่าไม่มีอำนาจในการเลิกจ้างพนักงานการบินไทย 508 คน และในขณะที่ผู้คัดค้านอยู่ระหว่างยื่นข้อเรียกร้องให้คงสภาพการจ้างพนักงานทุกคนต่อสหภาพแรงงานพนักงานบริษัทการบินไทย
2.บริษัท เบย์คอมพิวติ้ง จำกัด เจ้าหนี้รายที่ 10320 เป็นเจ้าหนี้กลุ่มที่10 หรือเจ้าหนี้การค้า มีมูลหนี้อยู่ที่2,880,485.80 บาท ได้ยื่นคัดค้านแผน เนื่องจากแผนไม่ได้ระบุวิธีการชำระหนี้ของบริษัทไว้ ซึ่งเป็นมูลหนี้สัญญาเช่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ทำให้บริษัทมองว่าได้รับความเสียหายและไม่ได้รับความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตามเจ้าหนี้รายนี้ก่อนหน้านี้ก็ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟู ในการประชุมเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับการโหวตแผนจากที่ประชุมเจ้าหนี้ จึงมายื่นคัดค้านต่อศาลล้มละลายกลางในครั้ง
ทั้งนี้ศาลฯ เห็นสมควรให้งดสืบพยานและให้โอกาสผู้ทำแผนและเจ้าหนี้ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ โดยทนายผู้ทำแผนยืนยันว่า ผู้บริหารแผนทั้ง 5 คนได้แก่ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายพรชัย ฐีระเวช นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ นายไกรสร บารมีอวยชัย และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเป็นผู้บริหารแผน และแผนได้กำหนดวิธีการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทุกรายโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ซึ่งทนายผู้ทำแผนจะยื่นคำชี้แจงโต้แย้งคัดค้านแผนของเจ้าหนี้ทั้ง 2 ราย ภายในระยะเวลา 7 วันนับจากวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหนี้ที่ยื่นคัดค้านแผนฟื้นฟูดังกล่าวเป็นเจ้าหนี้รายย่อยเพียง 2 ราย จากเจ้าหนี้ทั้งหมด 91.56% ของจำนวนหนี้ ทั้งหมดที่ได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทยไปแล้วเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้พิพากษาให้ทนายผู้ทำแผนยื่นคำชี้แจงเพิ่มเติมใน 5 ประเด็น ได้แก่1.เกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลล้มละลายกลางตามคำแถลงของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ฉบับลงวันที่ 25 พ.ค. 2564 และตามคำสั่งของศาลที่เคยกำหนดไว้ 2.แนวทางในการจัดกลุ่มเจ้าหนี้กลุ่มที่ 35 และการได้รับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ในกลุ่มนี้
3.ประเด็นการเท่าเทียมกันของเจ้าหนี้กลุ่มเดียวกันได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน 4.กรณีเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้มากกว่ากรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ล้มละลาย 5.ข้อกำหนดอื่นๆ ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร เช่น คณะกรรมการกำกับดูแลสินเชื่อใหม่และคณะกรรมการเจ้าหนี้
ประกอบกับศาลฯได้พิเคราะห์แผนฟื้นฟูกิจการฉบับที่ได้รับมติยอมรับแผนในที่ประชุมเจ้าหนี้เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2564 และรายงานการสรุปและวิเคราะห์แผนฟื้นฟูกิจการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ฉบับลงวันที่ 25 พ.ค.2564 แล้วเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดการไต่สวน ให้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้หากศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนก็จะมีผลทำให้การบินไทยสามารถดำเนินกระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไปได้ โดยการชำระหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการซึ่งเจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคำขอรับชำระหนี้ จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ตามแผน การจัดการกระแสเงินสดและทรัพย์สินของบริษัทบางส่วนจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขของแผนฟื้นฟูกิจการ ภายใต้การดำเนินการของผู้บริหารแผนฟื้นฟูทั้ง 5 คน
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,684 วันที่ 3 - 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564
ข่าวเกี่ยวข้อง: