นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พร้อมด้วย นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนางสาวชมพูนุท นาครทรรพ ประธานคณะทำงานด้าน LGBTQs ของ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน ธุรกิจบันเทิง และธุรกิจอิสระ อาทิ ร้านอาหารกลางคืน ฟิตเนส ธุรกิจคอนเสิร์ต อีเว้นท์ และร้านผับบาร์ เข้าพบ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล หลังได้รับผลกระทบหนักจากโควิด-19 ทั้งสามระลอกนานกว่า 200 วัน หวั่นธุรกิจไปต่อไม่ไหว
นายปริญญ์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว เราต้องพยายามช่วยกันบาลานซ์ระหว่างงานด้านสาธารณสุขและการฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไปพร้อมกัน ซึ่งที่ผ่านมาเราต่างได้เห็นกลุ่มอาชีพธุรกิจกลางคืน ธุรกิจบันเทิง และอาชีพอิสระ ได้รับความเดือดร้อนและออกมาเรียกร้องกันมาสักพักแล้ว เพราะมาตรการของภาครัฐที่อยากจะควบคุมวิกฤตโควิด 19 ได้ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจเหล่านี้เจ็บตัว
ทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ จึงประสานพาตัวแทนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องมาเข้าพบ ผอ.ศบค. เพื่อแบ่งปันมุมมองและเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา และถ้าเป็นไปได้อยากเสนอแนะให้ศบค.เปิดโอกาสให้ประชาชน หรือตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจประเภทต่าง ๆ เข้าไปมีส่วนร่วมในการประชุมก่อนออกมาตรการใหม่ทุกครั้งด้วย เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และร่วมกันทำให้มาตรการของภาครัฐเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากขึ้น
ขณะที่ นายนนทเดช บูรณะสิทธิพร เจ้าของร้าน The Rock Pub ตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน ธุรกิจบันเทิงและธุรกิจอิสระ ได้เสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้
1.ยกเลิกคำสั่งปิดสถานบันเทิงแบบเหมารวม โดยให้ปิดเฉพาะสถานบันเทิงที่พบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลา 14 วัน เพื่อทำความสะอาดร้านตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุข และให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้กักตัว
2.ขอให้มีคำสั่งปลดล็อกให้ธุรกิจกลางคืนและธุรกิจบันเทิงได้กลับมาเปิดบริการ และจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ภายใน 1 กรกฎาคม 2564 โดยให้ปฏิบัติตามคำสั่งของศบค.และกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด
3.ผ่อนปรนให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านได้ เพราะปัจจุบันยังไม่มีข้อบ่งชี้ที่ยืนยันว่าแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อ
4.ผ่อนปรนให้มีการจัดมหรสพในพื้นที่ปิดได้ โดยต้องจัดเก้าอี้แบบ 2 เว้น 1 และรักษาระยะห่างตามความเหมาะสม
5.พิจารณาการจัดสรรฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจกลางคืน ธุรกิจบันเทิง และธุรกิจอิสระโดยเร็วที่สุด โดยให้มีสิทธิ์เข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงไปพร้อมกับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว
6.พิจารณาให้มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องการเยียวยา พักชำระหนี้ และการกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางธุรกิจและการจ้างพนักงานจากการปิดธุรกิจชั่วคราว โดยพิจารณาการงดเว้นเก็บภาษาบางประเภท เช่น ภาษีสรรพสามิตร ภาษาใบอนุญาตจำหน่ายสุรา ภาษีป้าย เป็นต้น
7.เปิดช่องทางการสื่อสาร เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการประชาชนที่เดือดร้อน เพื่อให้ทราบถึงมุมมอง ผลกระทบ ความยากลำบากของผู้ประกอบอาชีพในกลุ่มต่าง ๆ ก่อนที่ภาครัฐจะออกมาตรการต่าง ๆ
8.เสนอให้ศบค. พูดคุยกับกระทรวงแรงงาน ให้ผ่อนปรนเรื่องการจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน กรณีที่นายจ้างต้องลดเงินเดือนพนักงานลงเป็นการชั่วคราว เพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจ แทนการปลดพนักงานออก
ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ กล่าวว่า ศบค.ทราบดีถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ แต่มาตรการของภาครัฐที่ออกมา เกิดจากความเห็นชอบร่วมกันของทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพราะการฟื้นฟูสถานการณ์ในช่วงการวิกฤติโควิด-19 ไม่ได้มีแค่ในแง่ของสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ศบค.พร้อมรับฟังปัญหาของทุกคน และหลังจากนี้จะพยายามหารือมาตรการช่วยเหลือ ให้ความเป็นธรรมที่ทำให้แต่ละฝ่ายได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
หลังจากนั้น นายปริญญ์ ได้นำกลุ่มธุรกิจบันเทิง กลางคืน และอาชีพอิสระเข้าพบ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และจะนําคณะยื่นหนังสือต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ต่อไปในวันที่ 17 มิ.ย.นี้