“ตงฮั้ว” ถือเป็นผู้บุกเบิกสื่อสิ่งพิมพ์ภาษาจีนในเมืองไทยเมื่อกว่า 60 ปีก่อน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเสนอเรื่องราวของประเทศไทยเป็นภาษาจีนใน Wechat เพื่อให้ชาวจีนที่สนใจได้รับรู้
ล่าสุด “ตงฮั้ว” ขยับตัวอีกครั้งเมื่อแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท หนังสือพิมพ์ ตงฮั้ว จำกัด เป็น บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด (Tong Hua media Lab) ถือเป็นการรีแบรนด์และเตรียมพร้อมการเปลี่ยนแปลง (Transform) สู่ Next generation media
นายสมนึก กยาวัฒนกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมาก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อ
ทั้งเรื่องของพฤติกรรมการบริโภคสื่อที่หันไปเลือกเสพสื่อผ่านเทคโนโลยีมากขึ้น รวมถึงการนำเสนอข่าวปลอม (Fake News) ซึ่งแม้วันนี้จะมีกฎหมายกำกับเรื่องของการนำเสนอข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาว จึงคิดพัฒนานำ Cryptoeconomics มาใช้ในการสร้างอินเทนซีฟ ให้กับคนสร้างข่าวหรือบทความนั้นๆ
“การดีไซน์คือ ผู้โพสต์ข่าวหรือบทความจะได้รับคริปโต 1 อัน หากข่าวนั้นเป็น Fake News หรือข้อมูลเท็จ ก็จะไม่ได้รับเหรียญเป็นการลงโทษ หากโพสต์ข่าวดี ก็จะได้แต้มสะสมไปเรื่อยๆ โดยระบบนี้จะถูกพัฒนาขึ้นมา เปิดกว้างให้ผู้สนใจเข้ามาโพสต์ได้ ขณะเดียวกันก็มีหลายๆคนช่วยกันตรวจสอบ”
ส่วน Web of Trust จะเป็นการสร้างเครือข่าย trust มาเสริมและลดการเกิดข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ และการถูกเซ็นเซอร์ เพื่อสร้างสื่อที่น่าไว้วางไว้และเชื่อถือได้
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ และจะเริ่มทดสอบในปีหน้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่น เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่า คริปโตกว่า 90% ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ต้องมีความพร้อมและศึกษาให้เข้าถึงปัญหา และวางแนวทางอย่างแท้จริงโดยทั้งโปรเจ็คนี้จะแบ่งออกเป็น 4 เฟส ซึ่งจะสมบูรณ์แบบได้ใน 3 ปีข้างหน้า”
โดยตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จะไม่ใช่บริษัทหนังสือพิมพ์อีกต่อไป แต่จะเป็นห้องปฏิบัติการเพื่อทำการวิจัยและพัฒนา เพื่อมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีมาแก้ปัญหาของสื่อในยุคปัจจุบัน เพื่อสร้างสื่อยุคอนาคต
โดยบริษัทพร้อมลงทุนและสนับสนุนการดำเนินการ การวิจัยและการพัฒนา เพื่อหาแนวทางแก้ไขและสร้างสรรค์อุตสาหกรรมสื่อ ไม่ว่าจะเป็น Decentralized Discovery การสร้างคอนเทนต์และเสพสื่อโดยไม่ต้องพึ่งพาบริการหรือแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์
รวมถึง Decentralized Filtering การออกแบบวิธีการคัดกรองข้อมูลแบบกระจายอำนาจ เช่น การทำ Cryptoeconomics และ Web of Trust ที่กล่าวมาในข้างต้น การทำ Verifiable Semantic Linked Data การออกแบบโครงสร้างการเก็บข้อมูลสื่อที่สามารถตรวจสอบได้และอยู่ในรูปแบบภาษาที่แมชชีพสามารถอ่านได้ผ่าน semantic และ cryptographic technology เป็นต้น