หลังจากที่ศบค. ประกาศเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้นในพื้นที่ 13 จังหวัด รวมทั้งกำหนดให้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดบริการได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา พื้นที่ฉีดวัคซีน หรือบริการทางการแพทย์ของรัฐเท่านั้น ทำให้ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายในห้างหรือศูนย์การค้า
ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการนั่งรับประทานในร้าน (ซึ่งห้ามมาก่อนหน้านี้) การซื้อกลับบ้านและบริการดีลิเวอรี ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อร้านอาหารนับพันราย ทั้งในพื้นที่ศูนย์การค้าและฟู้ดคอร์ท
นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและเจ้าของร้านอาหาร สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การล็อกดาวน์ครั้งนี้ส่งผลกระทบมาก แตกต่างจากการล็อกดาวน์ในเดือนเม.ย. ปี 2563 เพราะครั้งนี้ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในห้าง
ศูนย์การค้าต้องปิดให้บริการทั้งหมด แม้แต่ดีลิเวอรี ทำให้ทุกร้านขาดรายได้ ขณะที่ยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะค่าแรงพนักงาน ซึ่งหากจะพึ่งการเยียวยาจากภาครัฐก็ไม่เพียงพอ และที่ผ่านมาการเยียวยาจากพิษโควิดตั้งแต่รอบแรกยังไม่ได้รับอีกจำนวนมาก
ทั้งนี้อยากเรียกร้องให้ศบค. คลายล็อกดาวน์ให้ร้านอาหารในห้างกลับมาเปิดให้บริการได้ เฉพาะพื้นที่ครัวเพื่อให้ทำอาหารและขายผ่านดีลิเวอรีได้ เพราะที่ผ่านมามีการจัดระเบียบการให้บริการดีลิเวอรีในห้างและศูนย์การค้าที่ดี ยังไม่เคยพบว่ามีผู้ติดเชื้อจากกรณีดังกล่าว
“ครั้งนี้ร้านอาหารในห้างได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะฟู้ดคอร์ทซึ่งเป็นผู้ประกอบการเล็ก รายเดียว ที่ผ่านมาสามารถพยุงธุรกิจได้จากบริการซื้อกลับบ้านหรือดีลิเวอรีเท่านั้น แต่เมื่อสั่งปิดครัว ปิดทุกอย่าง ก็ไม่มีรายได้”
ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศมาตรการต่างๆ ออกมาไม่มีการแจ้งล่วงหน้าและไม่มีมาตรการเยียวยารองรับทันที ทำให้หลายธุรกิจได้รับผลกระทบ รัฐจึงควรมีการวางแผนและบูรณาการแก้ปัญหาและมาตรการเยียวยาให้เดินหน้าไปพร้อมกันได้
ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 เป็นระยะเวลาปีเศษ ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ปิดๆ เปิดๆ ถึงเปิดก็ไม่ได้ให้บริการเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ธุรกิจซึ่งมีเม็ดเงินทั้งระบบกว่า 4 แสนล้านบาท ลดลงไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาทเหลือเพียง 3 แสนล้านบาทในปี 2563
หากรัฐบาลใช้มาตรการขั้นสูงสุดล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบหนักและทำให้ธุรกิจร้านอาหารสูญเม็ดเงินไปกว่า 1 แสนร้านภายในระยะเวลา 45 วันทันที
ด้านนายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มการระบาดโดยห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าเปิดให้บริการเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกยาและเวชภัณฑ์ ที่ฉีดวัคซีนเท่านั้น
ทำให้เซ็น กรุ๊ป ต้องปรับแผนดำเนินธุรกิจในช่วงนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยหันหาพื้นที่เช่าร้านอาหารนอกห้างหรือโรงแรมที่มีครัวและอุปกรณ์ครัว เพื่อให้บริการอาหารแบบเดลิเวอรี่และผูกปิ่นโต ภายใต้แบรนด์ เซ็น เรสเตอรองค์, ออนเดอะเทเบิ้ล และอากะ
โดยเน้นในทำเลที่มีศักยภาพเพื่อรองรับการกับความต้องการของลูกค้าครอบคลุมทุกโซนของกรุงเทพฯและปริมณฑล อาทิ ลาดพร้าว, อนุสาวรีย์, ทองหล่อ, สาทร, สีลม, เพลินจิต, พระราม 3 สาธุประดิษฐ์, รามอินทรา (แฟชั่นไอส์แลนด์), เจริญนคร, บางกะปิ, สยาม เป็นต้น
โดยเบื้องต้นมีระยะเวลาการเช่าพื้นที่ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้ยังพบว่า มีร้านอาหาร เครื่องดื่มต่างออกมาประกาศหาพื้นที่เช่าเพื่อทำครัว อาทิ เรือนเพชรสุกี้, โปเตโต้ คอร์เนอร์ เป็นต้น
หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,699 วันที่ 25 - 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564