จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19รายใหม่ในภาพรวมของประเทศไทยและในพื้นที่“ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และ“สมุยพลัส” ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้แผนนำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มสะดุดแล้ว
โดยเฉพาะการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยง “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” หรือ (7+7) หรือ (Island Hopping) ที่เดิมตั้งเป้าว่าจะเริ่มในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ต้องเลื่อนออกไปก่อน เช่นเดียวกับโครงการ “สมุยพลัส” ที่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าจะต้องชลอการเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการนี้ออกไปก่อน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าแผนเปิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับพื้นที่นําร่องอื่น (7+7) ที่ศบศ.อนุมัติในหลักการที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าร่วม “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มีโอกาสได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวยังพื้นที่อื่นที่กำหนด (Sealed Route)
โดยหลังจากอยู่ภูเก็ตแล้ว 7 วัน และอีก7วันหลังสามารถเดินทางท่องเที่ยวข้ามไปพักและเที่ยว(เกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่า) จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล)จ.กระบี่ และ(เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) จ.พังงา เพื่อให้อยู่ครบ14 วัน จากที่จะเริ่มวันที่ 1ส.ค.นี้ จะต้องเลื่อนออกไปก่อน
เนื่องจากต้องรอการอนุมัติจากศบค.ก่อน ซึ่งก็ยังไม่ได้กำหนดวันนัดประชุม ประกอบกับจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งการติดเชื้อในภาพรวมของประเทศ รวมถึงการติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ภูเก็ตและสมุย ก็ทำให้ขณะนี้จ.กระบี่ พังงา และสมุย จึงยังไม่พร้อมที่จะเปิดพื้นที่เชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
การติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ภูเก็ต แม้จะเกิน 90 คนต่อสัปดาห์ไปแล้ว เฉลี่ยอยู่ที่ราว 20 คนต่อวัน แต่จริงๆการติดเชื้อที่เกิดขึ้นอยู่ในที่พักกักตัวทางเลือกSQ และ ALQ เป็นส่วนใหญ่
รวมถึงการรับคนภูเก็ตจากกรุงเทพฯกลับมารักษาตัวในภูมิลำเนา การติดเชื้อจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ถือว่ามีไม่มาก ซึ่งต่อไปจะมีการแยกรายละเอียดของข้อมูลให้ชัดเจนขึ้น อย่างวันที่28ก.ค.มีการติดเชื้อรายใหม่28คนเป็นติดเชื้อในประเทศ 27 คน และจากต่างประเทศ 1คน
แต่ต้องยอมรับในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา(วันที่20-26ก.ค.64) ภูเก็ตมีการติดเชื้อของคนไทยเพิ่มขึ้น ขณะนี้จังหวัดภูเก็ต จึงได้ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มข้น ทั้งการลดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมจากเดิม200 คน เหลือไม่เกิน100 คน การปิดห้างเซ็นทรัล การยกระดับการเดินทางเข้าจากในประเทศเข้าภูเก็ต
“วันนี้เราต้องประคองภูเก็ตอย่าให้แตก การควบคุมต่างๆจึงเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดการติดเชื้อรายใหม่ในส่วนที่เป็นคนไทยให้ได้ และหากยังพบการติดเชื้อในหลัก10-20คนต่อวันต่อเนื่อง ก็จะพิจารณายกระดับมาตรการเข้มข้นขึ้นอีก และยืนยันว่าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ยังคงเดินหน้าต่อ เพราะจากติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นคนในประเทศ ที่เราต้องเราแผนต่างๆเพื่อควบคุมให้ได้”
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวต่อว่า สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากกว่าคือการเปิดรับนักท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ “สมุยพลัส” ที่เพิ่งเปิดไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค. แต่ล่าสุดพบว่ามีการติดเชื้อรายใหม่ในสมุยกว่า34คนแล้ว เกิน20คนต่อสัปดาห์ที่เราวางไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทยติดเชื้อเหมือนที่ภูเก็ต
แต่ด้วยสมุย มีข้อจำกัดด้านระบบสาธารณสุขในพื้นที่ ทำให้จะมีการหารือกับผู้ว่าราชการจ.สุราษฏร์ฯนายอำเภอเกาะสมุย และผู้เกี่ยวข้องถึงการพิจารณาเบรคโครงการ สมุยพลัสไว้ก่อน
ประกอบกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านสมุยพลัส มีไม่มากนัก โดยอยู่ที่ราว 78 คน ก็น่าจะชลอไว้ก่อน ส่วนนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตที่เดินทางไปเที่ยวสมุย หลังจากอยู่ภูเก็ตครบ 14 วัน ก็ยังเดินทางเที่ยวสมุยได้ตามปกติ ซึ่งจำนวนนี้ถือว่าสูงกว่าสมุยพลัสด้วยซ้ำ
ที่ผ่านมามีจากภูเก็ตเข้ามาแล้ว 185 คน และในขณะนี้สมุยเองก็ได้ออกมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าพื้นที่เหมือนกับภูเก็ตแล้ว โดยคนที่มาจากพื้นที่สีแดงและสีแดงเข้มไม่เพียงแต่ต้องฉีดวัคซีนแต่ต้องมีผลตรวจโควิดประกอบด้วยเช่นกัน เพื่อลดการแพร่ระบาดในพื้นที่
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่าจากการติดเชื้อรายใหม่ในไทยที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ททท.จำเป็นต้องปรับแผนนำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ยืดหยุ่นกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น
ประกอบกับในการประชุมศบศ.ก็ได้เสนอให้ททท. พิจารณาการเปิดพื้นที่เกาะในภาคตะวันออก เช่นเกาะกูด เกาะหมาก จ.ตราด หรือแม้แต่พื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรมต.ท่องเที่ยวเห็นว่าน่าจะมีการเปิดพื้นที่ได้ นอกเหนือจากเปิดพื้นที่นำร่องที่วางไว้
ทำให้ททท.จึงจะทบทวนแผนนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวใหม่เพื่อเสนอศบศ.และศบค.พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามเบื้องต้นการเปิดพื้นที่เชื่อมโยงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ไปยังกระบี่และพังงา ก็อาจต้องยืดหยุ่นจากที่กำหนดไว้ว่าวันที่ 1ส.ค.นี้คงไม่ทัน เพราะต้องดูว่าพื้นที่เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ ยังขาดวัคซีนอยู่ราว 6.3 หมื่นโดสได้รับการจัดสรรได้ตามแผนหรือไม่
ประกอบกับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้คนก็อาจจะไม่สบายใจ จึงต้องควบคุมการติดเชื้ออยู่ แต่เราก็หวังว่าจะ7+7 น่าจะเปิดได้ภายในเดือนส.ค.นี้ เพราะเป็นพื้นที่เกาะ ซึ่งการควบคุมน่าจะทำได้ดีกว่าพื้นที่บนฝั่ง
อย่าง กรุงเทพฯ ประจวบคิรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ที่การจะเปิดต้องดูความพร้อมของพื้นที่ทั้งในเรื่องของวัคซีนที่ต้องฉีดให้กับคนในชุมชนอย่างน้อย 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รวมถึงการติดเชื้อในพื้นที่นั้นๆ และการบริหารความเสี่ยงในพื้นที่ด้วย
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า 28 วันของการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว 12,366 คน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยในช่วงม.ค.-พ.ค.64 ที่อยู่ที่3.4หมื่นคน ในเวลาไม่ถึงเดือนในพื้นที่เดียว เราได้เกือบครึ่งแล้ว ส่วนยอดจองโรงแรมช่วงก.ค.-ก.ย.64อยู่ที่292,632 คืนแล้ว
โดยเดือนก.ค.อยู่ที่เกือบ 2 แสนคืน เดือนส.ค.อาจโตชลอตัวไปบ้างจากปัจจัยต่างๆ อย่างการติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น และนโยบายต้นทางของนักท่องเที่ยวนั้นๆ ซึ่งททท.จะเน้นย้ำเรื่องการสื่อสารในเรื่องของซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง ที่แยกภูเก็ตออกจากภาพรวมของประเทศไทย
โดยเราต้องรักษาป้อมปราการภูเก็ตให้ได้ เพื่อเชื่อมโยงการเปิดพื้นที่อื่นๆต่อไปที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการเปิดในแต่ละพื้นที่อาจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการหารือในพื้นที่นั้นๆ
สำหรับการติดเชื้อในภูเก็ตขณะนี้เมื่อดูจากปริมาณครองเตียงในภูเก็ตที่ยังว่างอยู่ถึง70% และการฉีดวัคซีนในภูเก็ตเกือบ90%ในเข็มแรก และเข็ม2 อยู่ที่70% ก็จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในพื้นที่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์วันนี้ก็ยังเดินหน้าต่อแน่นอน
ในเดือนส.ค.นี้ก็จะมีสายการบินเปิดทำการบินจากต่างประเทศเข้าภูเก็ตอีก 4 สายการบิน คือ ไทยเวียตเจ็ท คาเธ่ย์แปซิฟิก โอมานแอร์ และกัลฟ์แอร์
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าเราคาดว่าจนถึงสิ้นเดือนก.ค.นี้ภูเก็ตน่าจะได้รับนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่1.4-.15 หมื่นคน แม้จะเทียบไม่ได้จากในอดีตที่อยู่ที่ราว4.5หมื่นคน แต่การเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก็เหมือนเป็นหยดน้ำที่เข้ามา จากเมื่อก่อนที่แห้งผาด และจะทยอยมีแหล่งน้ำเข้ามาเพิ่มขึ้นคนในพื้นที่ก็จะได้รับประโยชน์เพราะภูเก็ตกว่า95% ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก
ส่วนความท้าทายขณะนี้แม้ภูเก็ตจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อไม่มาก แต่การติดเชื้อของคนในพื้นที่ก็ถือว่าเป็นการติดเชื้อในภูเก็ต คนก็มองภาพรวมอยู่ ซึ่งทางจังหวัดก็อยู่ระหว่างยกระดับการควบคุมและต้องเอาตัวให้รอดก่อน ซึ่งทุกฝ่ายก็อยู่ระหว่างร่วมมือกันแก้ปัญหา
นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ กล่าวว่าแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของเชียงใหม่ วางเป็นโมเดลแบบไฮบริด คือถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยตรงไม่ผ่านบริษัททัวร์ จะให้เข้ามาอยู่ในบล็อกเล็กๆ เช่น สนามกอล์ฟ หรือมีการแยกเซกเมนต์การท่องเที่ยวให้ชัดเจน
แต่ถ้านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาใน 4 อำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง คือ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า จะต้องผ่านบริษัทตัวแทนหรือบริษัททัวร์เท่านั้น
ทั้งจะควบคุมการเดินทาง-การพักอาศัยแบบ Bubble And Seal ส่วนที่พักหรือสถานประกอบการที่นักท่องเที่ยวจะเข้าไปใช้บริการจะต้องผ่าน การรับรองมาตรฐาน SHA Plus+
ข่าวหน้า1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่3,701 วันที่ 1-4 สิงหาคม 2564