ตงฮั้ว แตกไลน์ "ธุรกิจบริหารหนี้" New S-curve เติบโตก้าวกระโดด

หลังส่งบริษัท สินทรัพย์ตงฮั้ว จำกัด เข้าร่วมประมูลและชนะการประมูลหนี้ด้อยคุณภาพ (ชนิดไม่มีหลักประกัน) จากสถาบันการเงิน มูลหนี้จำนวน 3,045 ล้านบาท โดยจะทำสัญญาซื้อขายและชำระเงินในวันที่ 31 ส.ค. นี้ ทำให้ "ตงฮั้ว" ก้าวเข้าสู่ธุรกิจบริหารหนี้ ติดตามทวงถามหนี้เต็มตัว ซึ่งจะเป็น New S-curve ที่ทำให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด

นายสมนึก กยาวัฒนกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TH เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การเข้าร่วมประมูลหนี้ด้อยคุณภาพ (ชนิดไม่มีหลักประกัน) มูลหนี้ 3,045 ล้านบาท ถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการรุกธุรกิจใหม่ ซึ่งวันนี้บริษัทมีความพร้อมเต็มที่ทั้งด้านพันธมิตรที่เข้าร่วมและจะเปิดตัวเร็วๆนี้ บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งด้านการเงิน ซึ่งปัจจุบันมีกระแสเงินสดประมาณ 1,000 ล้านบาท และบริษัทได้รับอนุมัติให้ออกหุ้นกู้วงเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนให้กับบริษัทย่อยในการดำเนินธุรกิจด้วย

"ธุรกิจนี้ยังเปิดกว้างและมีโอกาสเติบโตสูง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียง 2 รายคือ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด และ บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ทำให้เชื่อมั่นว่าธุรกิจนี้จะเข้ามาเติมเต็มและเป็น New S-curve ทำให้บริษัทมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด"

สำหรับแผนงานของ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ตงฮั้วฯ ในปี 2565 และ2566 มีแผนเข้าซื้อหนี้อีกไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้กลุ่มธุรกิจการเงินของบริษัทแข็งแรง กลายเป็นรายได้หลักของ บมจ.ตงฮั้ว โฮลดิ้ง ใน 1-3 ปีข้างหน้า และอาจทำให้บริษัทต้องย้ายหมวดหมู่จากสื่อและสิ่งพิมพ์เป็นหมวดการเงิน เพราะผลการดำเนินงานปัจจุบัน มาจากธุรกิจการเงิน ทั้งตงฮั้ว แคปปิตอล และตงฮั้ว แอสเซท เป็นหลัก"

อย่างไรก็ดี เป้าหมายของบริษัทคือการเดินหน้าธุรกิจใน 2 กลุ่มคือ การเงินและเทคโนโลยี ซึ่งล่าสุดในเดือนก.ค. ที่ผ่านมาบริษัทได้ประกาศเปลี่ยนชื่อ บริษัทหนังสือพิมพ์ ตงฮั้ว จำกัด เป็นบริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด เพื่อเป็นการรีแบรนด์ และทรานฟอร์มธุรกิจเพื่อเตรียมความพร้อมหลังธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์อยู่ในช่วงขาลง ให้ก้าวสู่ Next generation media

สำหรับผลประกอบการของบริษัทใน 6 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่ามีกำไรเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้และกำไรมาจากธุรกิจการเงินเป็นหลัก และคาดว่าในสิ้นปีนี้บริษัทจะทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์หลังจากการก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่นี้ด้วย