นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทฯได้ใบอนุญาตปลูก, ใบอนุญาตโรงสกัด CBD -THC , ใบอนุญาตผลิต จำหน่าย ส่งออก สารสกัดจากกัญชง ที่ถูกต้องตามกฏหมาย รายแรกและรายเดียวในปัจจุบัน ส่งผลทำให้บริษัทฯมีศักยภาพในธุรกิจกัญชงอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และยังมีพร้อมในการรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่ต้องการใช้สารสกัด CBD-THC ในกัญชาต่อเนื่อง
ล่าสุดได้มีการเซ็นสัญญารับคำสั่งซื้อสารสกัด CBD ในกัญชง รวมถึง น้ำมันเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) กับลูกค้ารายใหญ่เพิ่มอีก 1 ราย คือ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP เพื่อร่วมกันวิจัย พัฒนา และต่อยอดผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรเป็นรายแรกของประเทศไทย ทั้งนี้เบื้องต้นบริษัทฯคาดว่าจะพร้อมส่งมอบล็อตแรกให้กับ IP เพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มยาสมุนไพรได้ประมาณช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565
"จากประสบการณ์ทำธุรกิจโรงสกัดกว่า 35 ปี รวมถึงในฐานะที่เป็นผู้รับใบอนุญาตปลูก, ใบอนุญาตโรงสกัด CBD -THC , ใบอนุญาตผลิต จำหน่าย ส่งออก สารสกัดจากกัญชง ที่ถูกต้องตามกฏหมาย รายแรกและราย เดียวในปัจจุบัน ทำให้มีลูกค้าหลายรายสนใจออเดอร์สารสกัด CBD-THC จำนวน และด้วยความพร้อมในทุกๆด้านในธุรกิจกัญชง บริษัทจึงมั่นใจว่าจะส่งมอบออเดอร์ให้ลูกค้าได้ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน"
ด้านดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์กลุ่มยาสมุนไพร และโภชนบำบัดที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชง รองรับกระแสความต้องการของตลาดที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน หลังรัฐบาลเริ่มทยอยปลดล็อค “กัญชง” ให้หลายอุตสาหกรรมสามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ โดยบริษัทพร้อมเดินเครื่องการผลิตทันที หลังได้รับการส่งมอบล็อตแรกราวช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป เบื้องต้นตั้งเป้ารายได้ขั้นต่ำ 100 ล้านบาทต่อปี
“จากความร่วมมือวันนี้บริษัทพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่ตลาดยาสมุนไพร CBD อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนับเป็นอีก Step ของการสยายปีกต่อยอดการเติบโตสนับสนุนกลยุทธ์ระยะกลางที่วางไว้อย่างน้อย 25% ต่อปี ดันยอดขายรวมแตะ 2,000 ล้านบาทภายในปี 2024”