เปิดใจ "พัณณิน กิตติพราภรณ์" ตัดสินใจเลิกกิจการ "สยามนิรมิต กรุงเทพ"

การปิดฉากของ “สยามนิรมิต กรุงเทพฯ” โรงละครที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดการแสดงระดับโลก อันวิจิตร สวยงาม ตระการ ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม และได้รับการบันทึกจาก “Guinness World Records” ว่าเป็นเวทีที่มีขนาดสูงใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งๆ ที่จะดำเนินธุรกิจครบ 17 ปี ในวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ทำไมจึงตัดสินใจปิดกิจการ อ่านได้จากการเปิดใจของ “พัณณิน กิตติพราภรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสยามนิรมิต กรุงเทพและภูเก็ต

 

 

นับจากเกิดโควิด-19 ทำให้ก่อนหน้านี้สยามนิรมิต ทั้งที่กรุงเทพฯและภูเก็ต ได้ปิดกิจการชั่วคราวไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ซึ่งเราได้ยินเรื่องโควิดมาตั้งแต่ปีที่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ข่าวสารก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับโรคนี้พอมาถึงปลายเดือนที่แล้ว เราก็หวังว่าการฉีดวัคซีนก็จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ แต่จากข้อมูลของทั้งต่างประเทศและในไทยก็เห็นว่าเป็นไปไม่ได้ แปลว่าเราต้องอยู่กับไวรัสซึ่งร้ายกว่าที่คิด

สัญญาเช่าที่ดินเหลือน้อยไม่คุ้มทำต่อ

 

จากนั้นเราก็ไปดูว่าถ้าเป็นแบบนี้ ถ้าต้องอยู่กับโควิด ทั่วโลกมีการพยากรณ์เรื่องการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างไร ซึ่งเราไปดูการทำวิจัยจากหลายข้อมูลทั่วโลก อาทิ บริษัทที่ปรึกษาต่างๆ หน่วยงานด้านวิจัยของสหประชาชาติ ทุกคนมองเหมือนกัน โดยเกินครึ่งหนึ่ง คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 3 ปีหรือในปี2567

 

ทำให้เรากลับมาดูสัญญาเช่าที่ดินโครงการสยามนิรมิต กรุงเทพ ก็พบว่ายังเหลือสัญญาเช่าอีก 7 ปี ถ้าไวรัสยังระบาดอีกหลายปี ก็ไม่คุ้มที่เราจะอยู่ต่อไป เพราะสัญญาเช่าที่ดินเหลือเวลาน้อยเกินไป ขณะที่กว่าการเดินทางท่องเที่ยวจะกลับมาต้องใช้เวลานาน  ก็เลยตัดสินใจได้ไม่ยากจากข้อมูลปัจจัยหลายองค์ประกอบ เราจึงได้แจ้งเจ้าของที่ดินว่าจะปิดกิจการโรงละครแห่งนี้ ซึ่งทางเจ้าของที่ดินก็เข้าใจ  เพราะที่ผ่านมาสยามนิรมิต กรุงเทพ ก็ได้ปิดกิจการชั่วคราวมากว่า 18 เดือนแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม2563

 

การเลิกกิจการของสยามนิรมิต กรุงเทพ เรามีพนักงานอยู่ราว 200 คน ก็จะเป็นการจ่ายเงินชดเชยไปตามกฎหมายแรงงาน ส่วนสินทรัพย์ต่างๆ ก็กำลังวางแผนอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ดูสถานการณ์โควิดมาตลอด ซึ่งก่อนโควิดมีนักท่องเที่ยวมาชมโชว์ไม่ต่ำกว่า 6-7 แสนคนต่อปี เพราะข้อดีของการแสดงของสยามนิรมิต คือ เป็นโชว์ที่ทุกชาติดูได้รับหมดและได้รับการยอมรับจากผู้ชมทุกชาติทุกภาษาว่า เป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีที่สุดของโลก จากการรีวิวบนทริปแอดไวเซอร์ นักท่องเที่ยวจึงมีทุกชาติ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ เวียดนาม จีน

 

แต่เมื่อคนยังไม่มั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวท่องเที่ยว  และการเดินทางหลังโควิดมีอุปสรรค ไม่เหมือนในอดีต ที่อยากเดินทางก็ซื้อตั๋วเครื่องบินมีวีซ่าก็เดินทางได้ แต่เดี๋ยวนี้ต้องมีวัคซีนพาสปอร์ต ใส่หน้ากาก มีข้อจำกัดมากมายที่จากการทำวิจัยพบว่า เป็นอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยว เมื่อบรรยากาศการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรอ เพราะบางธุรกิจอาจกลับมาเปิดได้บ้างเมื่อเริ่มมีการเดินทาง แต่ธุรกิจโรงละครของเราต้องการลูกค้าที่เยอะกว่านั้น

 

ที่ผ่านมีความผูกพันที่มีกับสยามนิรมิต กรุงเทพ ก็มีมาก เพราะกว่าจะทำโชว์ออกมาได้ก็หลายปี เพราะแก้แล้วแก้อีก บางฉากแก้ร่วม 20 รอบ อยากให้คนมาดูโชว์ดีๆและรู้สึกถึงความอลังการ ทรงคุณค่า และความงดงามของวัฒนธรรม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักวัฒนธรรมไทย ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเพราะใครไปชมโชว์ก็จะรู้สึกถึงความประทับใจ และเราก็ภูมิใจ เพราะแต่ก่อนคนไทยก็ไม่ดูโขน ตอนนี้โขนก็มีการนำเอฟเฟคมาใช้ในการแสดง 

 

 

ปักหลักสยามนิรมิต ภูเก็ต

 

อย่างไรก็ตามแม้สยามนิรมิต กรุงเทพ จะปิดกิจการไปแล้ว แต่โรงละครสยามนิรมิต ภูเก็ต จะยังคงดำเนินการอยู่ เพราะเป็นที่ดินของเราเอง และได้ขยายไปเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2554 หลังจากสยามนิรมิต กรุงเทพ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เราจึงมองการขยายโชว์ไปยังภูเก็ต แต่สยามนิรมิต ภูเก็ต ขณะนี้ก็ยังปิดกิจการชั่วคราวอยู่ตั้งแต่โควิดรอบแรก

 

แม้ว่าจะมีการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างเช้าเข้ามาหลักหมื่นคนต่อเดือน แต่ก็ถือว่ายังไม่เยอะพอที่จะกลับมาเปิดโรงละคร ซึ่งก็คงต้องรอดีมานต์การเดินทางที่มากกว่านี้  โดยต้องดูอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในภูเก็ต ที่จะเป็นสิ่งที่บอกเราได้ว่าสยามนิรมิต ภูเก็ต จะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งได้เมื่อไหร่  ซึ่งต่อไปสยามนิรมิต จะมีแห่งเดียวที่ภูเก็ตเท่านั้น

 

ในส่วนของสวนสนุกดรีมเวิลด์ซึ่งดำเนินการในนามบริษัทอะมิวส์เม้นท์ ครีเอชั่น จำกัด ในขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการปิดชั่วคราวจากมาตรการสั่งปิดสถานที่ของรัฐบาลเพื่อคุมโควิด-19 ซึ่งหากรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ให้เปิดได้เมื่อไหร่ ดรีมเวิลด์ก็พร้อมจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเช่นกัน

 

หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,714 วันที่ 16 - 18 กันยายน พ.ศ. 2564