CNN เผยไทยเป็น1ใน5ประเทศของโลกที่เปิดประเทศอยู่ร่วมโควิด

17 ก.ย. 2564 | 13:47 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2564 | 23:16 น.

CNN Travel เผยไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศทั่วโลกที่เตรียมเปิดเมืองอยู่กับโควิด แต่กังวลการฉีดวัคซีนในไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

วันนี้(วันที่ 17 ก.ย. 2564) เว็บไซต์ CNN Travel รายงานว่า มี 5 ประเทศที่เตรียมเปิดประเทศและใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 และไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศในโลกที่กำลังจะเปิดประเทศและใช้แนวทาง “อยู่ร่วมกับ Covid-19”

 

กว่า 18 เดือนที่โลกต้องเผชิญกับการระบาดของ Covid-19 ขณะนี้บางประเทศกำลังจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งและใช้โมเดล “อยู่ร่วมกับ Covid-19” บางประเทศตัดสินใจเลือกแนวทางนี้เพราะฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรเกือบทั้งประเทศแล้ว ขณะที่บางประเทศมองว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมาตรการสกัดการระบาดเริ่มมีมากกว่าประโยชน์

 

  • เดนมาร์ก: ประเทศที่ยกเลิกทุกมาตรการ 

 

เดนมาร์ก

 

รัฐบาลเดนมาร์กประกาศยกเลิกมาตรการสกัด Covid-19 ที่เหลืออยู่ทั้งหมดเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยบอกว่า Covid-19 ไม่ใช่ความเจ็บป่วยที่เป็นภัยคุกคามต่อสังคมอีกต่อไป ขณะนี้ชาวเดนมาร์กบสามารถเข้าใช้บริการไนต์คลับและร้านอาหารโดยไม่ต้องแสดงหลักฐานว่าฉีดวัคซีนแล้ว หรือมีผลตรวจเป็นลบ หรือเคยติดเชื้อมาแล้ว รวมทั้งใช้บริการขนส่งสาธารณะโดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย และสามารถรวมตัวกันกลุ่มใหญ่ได้โดยไม่มีข้อจำกัด เรียกว่ากลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนก่อนที่ Covid-19 จะระบาดแล้ว

กุญแจสำคัญที่ทำให้เดนมาร์กประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งคือ การฉีดวัคซีน จากข้อมูลของ Our World in Data พบว่า จนถึงวันที่ 13 ก.ย. กว่า 74% ของประชากรเดนมาร์กฉีดวัคซีนป้องกัน Covid-19 ครบโดสแล้ว ส่วน เมานุส ฮิวนิเก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์ก ทวีตเมื่อวันพุธ (15 ก.ย.) ว่า ปัจจุบันอัตราการแพร่เชื้อ (R0) อยู่ที่ 0.7 ซึ่งหมายความว่า การระบาดอยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่อง หากมากกว่า 1.0 คือเคสกำลังจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่ช้า และหากต่ำกว่า 1.0 เคสจะลดลงในอนาคตอันใกล้  

 

อย่างไรก็ดี เดือนที่แล้วหลังจากรัฐบาลประกาศกำหนดยกเลิกมาตรการต่างๆ ฮิวนิเกเตือนว่า “แม้ว่าตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นแล้ว แต่เรายังไม่พ้นจากโรคระบาด และรัฐบาลจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการโดยเร็วหากการระบาดคุกคามสังคมของเราอีกครั้ง”

 

  • สิงคโปร์: พยายามอยู่กับ Covid-19 แต่เดลตาทำพัง 

สิงคโปร์

 

 

รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเมื่อเดือน มิ.ย.ว่า สิงคโปร์กำลังเตรียมจะอยู่ร่วมกับ Covid-19 โดยการควบคุมการแพร่ระบาดด้วยวัคซีนและจับตาการเข้ารักษาในโรงพยาบาลแทนการจำกัดการใช้ชีวิตของประชาชน เพราะเชื่อว่า Covid-19 ไม่มีทางหายไปจากโลกนี้ ทางการเริ่มผ่อนคลายมาตรการในเดือน ส.ค. โดยอนุญาตให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วนั่งรับประทานอาหารในร้านและรวมกลุ่มกันได้ 5 คนจากเดิมที่ทำได้เพียง 2 คน ทว่าการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตาทำให้ทุกอย่างสะดุดและต้องระงับการเปิดประเทศไว้ก่อน รวมทั้งอาจต้องกลับมาใช้มาตรการเข็มงวดอีกครั้งหากยังคุมเดลตาไม่อยู่ สิงคโปร์พยายามควบคุมการระบาดอย่างหนักทั้งการติดตามผู้ติดเชื้อในเชิงรุก แยกผู้ติดเชื้อแบบเป็นกลุ่มก้อนออกจากคนอื่น ตรวจหาเชื้อถี่ขึ้นในกลุ่มคนงานที่มีความเสี่ยงสูง ถึงอย่างนั้นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีที่ผ่านมา แต่ตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักยังต่ำ และฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากร 81% สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

  • ไทย: ฉีดวัคซีนได้น้อยแต่ยังเดินหน้าเปิดประเทศ

 

ไทย

 

ไทยเตรียมเปิดกรุงเทพฯ และจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ หัวหิน พัทยา เชียงใหม่ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วในเดือนหน้าเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นก็ตาม หลังจากเปิดภูเก็ตไปเมื่อวันที่  1 ก.ค. และเกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่าเมื่อวันที่ 15 ก.ค.อัตราการฉีดวัคซีนของไทยยังตามหลังเพื่อนบ้านบางประเทศ จนถึงวันที่ 13 ก.ย. มีคนไทยเพียง 18% เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบโดส และ 21% ได้รับเข็มเดียว

 

  • แอฟริกาใต้: คลายมาตรการ แต่เดลตายังเป็นภัยคุกคาม

 

แอฟริกาใต้

 

แอฟริกาใต้เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง อาทิ ลดเวลาการเคอร์ฟิวเป็นตั้งแต่ 23.00-04.00 น. สามารถรวมตัวกันได้ 250 คนในสถานที่ปิด และ 500 คนในสถานที่กลางแจ้ง ลดข้อจำกัดการจำหน่วยแอลกอฮอล์ จากที่เคยเข็มงวดสุดๆ อย่างการห้ามรวมตัวกัน ยกเว้นการจัดงานศพ ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนยังต่ำ อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี ซิริล แรมาโปซา เตือนว่า การระบาดระลอกสามยังไม่จบ แต่ตอนนี้แอฟริกาใต้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคนแล้ว ล่าสุดกว่า 1 ใน 4 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส

 

  • ชิลี: รับนักท่องเที่ยวได้แล้วเพราะฉีดวัคซีนมาก 

 

ชิลี

 

จากรายงานล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขชิลี เกือบ 87% ของชาวชิลีที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว รวมทั้งเริ่มฉีดเข็มกระตุ้นให้คนที่ฉีดครบโดสแล้ว และอนุมัติให้ใช้วัคซีนของ Sinovac กับเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปและเริ่มฉีดตั้งแต่วันจันทร์ (13 ก.ย.) แม้ว่าเดลตายังแผลงฤทธิ์อยู่แต่รัฐบาลชิลีประกาศเมื่อวันพุธ (15 ก.ย.) ว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศซีกโลกใต้พอดิบพอดี โดยมีเงื่อนไขว่าต้องกักตัว 5 วัน และจะเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในประเทศของชิลี

 

ที่มาCNN Travel (ดูรายละเอียดคลิ๊กที่นี่)